![]() |
| ทำบุญ |
คำถามและคำตอบในกฐินวรรคที่ ๑
[๒๗] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้เก็บอติเรกจีวรล่วง ๑๐ วัน ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์เก็บอติเรกจีวร.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายวาจา กับจิต ...
[๒๘] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้อยู่ปราศจากไตรจีวรสิ้นราตรีหนึ่ง ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปฝากจีวรไว้ในมือของภิกษุทั้งหลายแล้ว มีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสก หลีกไปสู่จาริกในชนบท.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายวาจากับจิต ...
[๒๙] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รับอกาลจีวรแล้วเก็บไว้เกินเดือนหนึ่ง ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปรับอกาลจีวร แล้วเก็บไว้เกินเดือนหนึ่ง.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กาย วาจากับจิต ...
[๓๐] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ใช้ภิกษุณีมิใช่ญาติให้ซักจีวรเก่า ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายี ใช้ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติให้ซักจีวรเก่า.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๓๑] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รับจีวรจากมือภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห์.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุทายี.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายี รับจีวรจากมือภิกษุณีผู้มิใช่ญาติ.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๓๒] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ขอจีวรกะพ่อเจ้าเรือนก็ดี กะแม่เจ้าเรือนก็ดี ผู้มิใช่ญาติ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร ขอจีวรกะเศรษฐีบุตรผู้มิใช่ญาติ.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๓๓] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ขอจีวรยิ่งกว่านั้น กะพ่อเจ้าเรือนก็ดี กะแม่เจ้าเรือนก็ดี ผู้มิใช่ญาติ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ไม่รู้ประมาณแล้วขอจีวรเป็นอันมาก.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๓๔] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้อันเขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อน เข้าไปหาพ่อเจ้าเรือนผู้มิใช่ญาติแล้วถึงการกำหนดในจีวร ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องท่านพระอุปนันทศากยบุตร เขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อนเข้าไปหาพ่อเจ้าเรือนผู้มิใช่ญาติ แล้วถึงการกำหนดในจีวร.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๓๕] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้อันเขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อน เข้าไปหาพ่อเจ้าเรือนทั้งหลายผู้มิใช่ญาติแล้วถึงการกำหนดในจีวร ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร อันเขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อน เข้าไปหาพ่อเจ้าเรือนทั้งหลายผู้มิใช่ญาติ แล้วถึงการกำหนดในจีวร.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๓๖] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ยังจีวรให้สำเร็จด้วยการทวงเกิน ๓ ครั้ง ยืนเกิน ๖ ครั้ง ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร อันอุบาสกกราบเรียนว่า ขอพระคุณเจ้าจงรอสักวันหนึ่ง ก็มิได้รอ.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ... กฐินวรรค ที่ ๑ จบ
หัวข้อประจำวรรค
[๓๗] อติเรกจีวร ๑ ราตรีเดียว ๑ อกาลจีวร ๑ ซักจีวรเก่า ๑ รับจีวรเป็นข้อที่ ๕ ขอจีวร ๑ ขอเกินกำหนด ๑ เขามิได้ปวารณา ๒ สิกขาบทกับทวง ๓ ครั้ง.
คำถามและคำตอบในโกสิยวรรคที่ ๒
[๓๘] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ให้ทำสันถัตเจือด้วยไหม ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ เมืองอาฬวี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์เข้าไปหาพวกช่างไหม แล้วพูดอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย ขอจงต้มตัวไหมให้มาก จงให้แก่พวกฉันบ้าง แม้พวกฉันก็ปรารถนาจะให้ทำสันถัตเจือด้วยไหม.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๓๙] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ให้ทำสันถัตแห่งขนเจียมดำล้วน ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครเวสาลี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ให้ทำสันถัตแห่งขนเจียมดำล้วน.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๔๐] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ไม่ถือเอาขนเจียมขาว ๑ ส่วน ขนเจียมแดง ๑ ส่วน แล้วให้ทำสันถัตใหม่ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ถือเอาชายขนเจียมขาวนิดหน่อยเท่านั้น แล้วให้ทำสันถัตขนเจียมดำล้วนเช่นนั้นแหละ
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๔๑] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ให้ทำสันถัตทุกปี ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปให้ทำสันถัตทุกปี.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๔๒] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ไม่ถือเอาสันถัตเก่า โดยรอบหนึ่งคืบพระสุคตแล้วให้ทำสันถัตสำหรับนั่งใหม่ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปทิ้งสันถัต แล้วสมาทานอารัญญิกธุดงค์ บิณฑปาติกธุดงค์ ปังสุกูลิกธุดงค์.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๔๓] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รับขนเจียมแล้วเดินทางไปเกิน ๓ โยชน์ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุรูปหนึ่ง รับขนเจียมแล้วเดินทางไปเกิน ๓ โยชน์.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแต่กาย มิใช่วาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายกับจิต มิใช่วาจา ...
[๔๔] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุใช้ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติให้ซักขนเจียม ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ สักกชนบท.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ใช้ภิกษุณีผู้มิใช่ญาติให้ซักขนเจียม.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๔๕] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รับรูปิยะ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครราชคฤห์.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร รับรูปิยะ. มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๔๖] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ถึงความแลกเปลี่ยนด้วยรูปิยะมีประการต่างๆ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ ถึงความแลกเปลี่ยนด้วยรูปิยะมีประการต่างๆ
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๔๗] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ถึงการซื้อและขายมีประการต่างๆ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร ถึงการซื้อและขายกับปริพาชก.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ... โกสิยวรรค ที่ ๒ จบ
หัวข้อประจำวรรค
[๔๘] สันถัตเจือไหม ๑ ดำล้วน ๑ ไม่ได้ส่วน ๑ ทำทุกปี ๑ สันถัตเก่า ๑ กับการนำขนเจียมไป ๑ ซักขนเจียม ๑ รับรูปิยะ ๑ แลกเปลี่ยนและซื้อขายมีประการต่างๆ ๒ สิกขาบท.
คำถามและคำตอบในปัตตวรรคที่ ๓
[๔๙] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้เก็บอติเรกบาตรไว้เกิน ๑๐ วัน ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์เก็บอติเรกบาตร.
มีบัญญัติ ๑ อนุบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ คือ บางทีเกิดแต่กายกับวาจา มิใช่จิต บางทีเกิดแต่กายวาจากับจิต ...
[๕๐] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้มีบาตร มีรอยร้าวหย่อน ๕ แห่ง ให้จ่ายบาตรใหม่ ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ สักกชนบท.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ผู้มีบาตรทะลุเพียงเล็กน้อยบ้าง ร้าวเพียงเล็กน้อยบ้าง เพียงเป็นรอยขีดบ้าง ก็ขอบาตรเป็นอันมาก.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๕๑] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รับประเคนเภสัชแล้วเก็บไว้เกิน ๗ วัน ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปรับประเคนเภสัชแล้วเก็บไว้เกิน ๗ วัน.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ (เหมือนในกฐินสิกขาบท) ...
[๕๒] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้แสวงหาผ้าอาบน้ำฝน เมื่อฤดูร้อนเหลือเกินกว่า ๑ เดือน ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์แสวงหาผ้าอาบน้ำฝน เมื่อฤดูร้อนเหลือเกินกว่า ๑ เดือน.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๕๓] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้ให้จีวรแก่ภิกษุเอง แล้วโกรธ น้อยใจ ชิงเอาคืนมา ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร ให้จีวรแก่ภิกษุเองแล้วโกรธ น้อยใจชิงเอาคืนมา.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ ...
อรรถกถา ปริวาร มหาวิภังค์ ๑๖ มหาวาร
เนื้อความอรรถกถาส่วนนี้ ศึกษาได้จากอรรถกถาที่มีมาก่อนหน้านี้ (ข้อ 1).
อรรถกถาที่มีมาก่อนหน้านี้ :-
อรรถกถา ปริวาร มหาวิภังค์ ๑๖ มหาวาร
ปาราชิกกัณฑ์เป็นต้น
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=1
อรรถกถาที่มีถัดจากนี้ :-
อรรถกถา ปริวาร
ย่อหัวข้อสมุฏฐาน
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=826อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- คำถามและคำตอบในกฐินวรรคที่ ๑และ ในปัตตวรรคที่ ๓
[๕๔] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ขอด้ายมาเอง ให้ช่างหูกทอจีวร ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห์.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์ขอด้ายมาเองแล้ว ใช้ช่างหูกทอจีวร.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้ เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๕๕] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้อันเขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อน
เข้าไปหาช่างหูกของพ่อเจ้าเรือนผู้มิใช่ญาติ แล้วถึงความกำหนดในจีวร ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภท่านพระอุปนันทศากยบุตร.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ท่านพระอุปนันทศากยบุตร เขาไม่ได้ปวารณาไว้ก่อน เข้าไปหาช่างหูกของพ่อเจ้าเรือนผู้มิใช่ญาติ แล้วถึงความกำหนดในจีวร.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ ...
[๕๖] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รับอัจเจกจีวรแล้วเก็บไว้เลยสมัยจีวรกาล ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปรับอัจเจกจีวร แล้วเก็บไว้เลยสมัยจีวรกาล.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ (เหมือนในกฐินสิกขาบท) ...
[๕๗] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้เก็บจีวร ๓ ผืน
ผืนใดผืนหนึ่งไว้ในละแวกบ้าน แล้ว อยู่ปราศเกิน ๖ ราตรี ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภภิกษุหลายรูป.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปเก็บจีวร ๓ ผืน ผืนใดผืนหนึ่งไว้ในละแวกบ้าน แล้วอยู่ปราศเกิน ๖ ราตรี.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๒ (เหมือนในกฐินสิกขาบท) ...
[๕๘] ถามว่า พระผู้มีพระภาคผู้ทรงรู้เห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงบัญญัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้รู้อยู่
น้อมลาภที่เขาน้อมมาจะถวายสงฆ์ มาเพื่อตน ณ ที่ไหน?
ตอบว่า ทรงบัญญัติ ณ พระนครสาวัตถี.
ถ. ทรงปรารภใคร?
ต. ทรงปรารภพระฉัพพัคคีย์.
ถ. เพราะเรื่องอะไร?
ต. เพราะเรื่องที่พระฉัพพัคคีย์รู้อยู่ น้อมลาภที่เขาน้อมมาจะถวายสงฆ์ มาเพื่อตน.
มีบัญญัติ ๑ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สิกขาบทนี้เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ ...
ปัตตวรรค ที่ ๓ จบ
หัวข้อประจำวรรค
[๕๙] อติเรกบาตร ๑ กับบาตรมีรอยร้าวหย่อน ๑ เภสัช ๑ ผ้าอาบน้ำฝน ๑ โกรธชิงจีวร ๑ ช่างหูก ๒ สิกขาบท กับอัจเจกจีวร ๑ อยู่ปราศ ๖ ราตรี ๑ น้อมลาภมาเพื่อตน ๑
นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ สิกขาบท จบ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น