
มุสาวาท
[๑๑๙๓] อุ. มุสาวาท มีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี มุสาวาทนี้มี ๕ อย่าง. ๕ อย่างอะไรบ้าง? คือ:-
๑. มีอยู่ มุสาวาทถึงต้องอาบัติปาราชิก
๒. มีอยู่ มุสาวาทถึงต้องอาบัติสังฆาทิเสส
๓. มีอยู่ มุสาวาทถึงต้องอาบัติถุลลัจจัย
๔. มีอยู่ มุสาวาทถึงต้องอาบัติปาจิตตีย์
๕. มีอยู่ มุสาวาทถึงต้องอาบัติทุกกฏ
ดูกรอุบาลี มุสาวาท ๕ อย่าง นี้แล.
งดอุโบสถหรือปวารณา
[๑๑๙๔] อุ. พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล งดอุโบสถหรือปวารณาในท่ามกลางสงฆ์ สงฆ์พึงกำจัดเสียว่า อย่าเลย ภิกษุ เธออย่าได้ทำความบาดหมางอย่าได้ทำความทะเลาะ อย่าได้ทำความแก่งแย่ง อย่าได้ทำความวิวาทกัน ดังนี้ แล้วทำอุโบสถหรือปวารณา?
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ งดอุโบสถหรือปวารณา ในท่ามกลางสงฆ์ สงฆ์พึงกำจัดเสียว่า อย่าเลย ภิกษุ เธออย่าได้ทำความบาดหมาง อย่าได้ทำความทะเลาะ อย่าได้ทำความแก่งแย่ง อย่าได้ทำความวิวาทกัน ดังนี้ แล้วทำอุโบสถหรือปวารณา. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นอลัชชี
๒. เป็นพาล
๓. มิใช่ปกตัตตะ
๔. เป็นผู้กล่าวประสงค์จะให้เคลื่อนจากพรหมจรรย์
๕. หาใช่เป็นผู้กล่าวประสงค์ให้ออกจากอาบัติไม่.
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล งดอุโบสถหรือปวารณาในท่ามกลางสงฆ์ สงฆ์พึงกำจัดเสียว่า อย่าเลย ภิกษุ เธออย่าได้ทำความบาดหมาง อย่าได้ทำความทะเลาะ อย่าได้ทำความแก่งแย่ง อย่าได้ทำความวิวาทกัน ดังนี้ แล้วทำอุโบสถ หรือปวารณา.
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ แม้อื่นอีก ๕ งดอุโบสถหรือปวารณาในท่ามกลางสงฆ์ สงฆ์พึงกำจัดเสียว่า อย่าเลย ภิกษุ เธออย่าได้ทำความบาดหมาง อย่าได้ทำความทะเลาะอย่าได้ทำความแก่งแย่ง อย่าได้ทำความวิวาทกัน ดังนี้แล้วทำอุโบสถหรือปวารณา. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นผู้มีความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์
๒. เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์
๓. เป็นผู้มีอาชีวะไม่บริสุทธิ์
๔. เป็นผู้เขลา ไม่ฉลาด
๕. เป็นผู้ก่อความบาดหมาง ก่อความทะเลาะ
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล งดอุโบสถ หรือปวารณาในท่ามกลางสงฆ์ สงฆ์พึงกำจัดเสียว่า อย่าเลย ภิกษุ เธออย่าได้ทำความบาดหมาง อย่าได้ทำความทะเลาะ อย่าได้ทำความแก่งแย่ง อย่าได้ทำความวิวาทกัน ดังนี้แล้วทำอุโบสถ หรือปวารณา.
องค์ของภิกษุผู้ไม่ควรให้คำซักถาม
[๑๑๙๕] อุ. สงฆ์ไม่พึงให้คำซักถาม แก่ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี สงฆ์ไม่พึงให้คำซักถาม แก่ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ไม่รู้อาบัติและอนาบัติ
๒. ไม่รู้อาบัติเบาและอาบัติหนัก
๓. ไม่รู้อาบัติมีส่วนเหลือและอาบัติหาส่วนเหลือมิได้.
๔. ไม่รู้อาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่วหยาบ
๕. ไม่รู้อาบัติที่ทำคืนได้และอาบัติที่ทำคืนไม่ได้
ดูกรอุบาลี สงฆ์ไม่พึงให้คำซักถาม แก่ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล.
องค์ของภิกษุผู้ควรให้คำซักถาม
ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงให้คำซักถาม แก่ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. รู้อาบัติและอนาบัติ
๒. รู้อาบัติเบาและอาบัติหนัก
๓. รู้อาบัติมีส่วนเหลือและอาบัติหาส่วนเหลือมิได้
๔. รู้อาบัติชั่วหยาบและอาบัติไม่ชั่วหยาบ
๕. รู้อาบัติที่ทำคืนได้และอาบัติที่ทำคืนไม่ได้
ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงให้คำซักถาม แก่ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล.
ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ ๕
[๑๑๙๖] อุ. ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ ๕. อาการ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ด้วยไม่ละอาย
๒. ด้วยไม่รู้
๓. ด้วยสงสัยแล้วขืนทำ
๔. ด้วยสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร
๕. ด้วยสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร
ดูกรอุบาลี ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ ๕ นี้แล.
ดูกรอุบาลี ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการแม้อื่นอีก ๕. อาการ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ด้วยไม่ได้เห็น
๒. ด้วยไม่ได้ฟัง
๓. ด้วยหลับ
๔. ด้วยเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น
๕. ด้วยลืมสติ
ดูกรอุบาลี ภิกษุต้องอาบัติด้วยอาการ ๕ นี้แล.
เวร ๕
[๑๑๙๗] อุ. เวรมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี เวรนี้มี ๕ เวร ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ฆ่าสัตว์มีชีวิต
๒. ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ให้
๓. ประพฤติผิดในกาม
๔. พูดเท็จ
๕. เหตุเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เพราะดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย
ดูกรอุบาลี เวร ๕ นี้แล.
เจตนางดเว้น ๕
[๑๑๙๘] อุ. เจตนางดเว้น มีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี เจตนางดเว้นนี้ มี ๕. เจตนางดเว้น ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เจตนางดเว้น จากฆ่าสัตว์มีชีวิต
๒. เจตนางดเว้น จากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ให้
๓. เจตนางดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม
๔. เจตนางดเว้น จากพูดเท็จ
๕. เจตนางดเว้น จากเหตุเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เพราะดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย
ดูกรอุบาลี เจตนางดเว้น ๕ นี้แล.
ความเสื่อม ๕
[๑๑๙๙] อุ. ความเสื่อมมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี ความเสื่อมนี้ มี ๕. ความเสื่อม ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ความเสื่อมจากญาติ
๒. ความเสื่อมจากโภคทรัพย์
๓. ความเสื่อมคือมีโรค
๔. ความเสื่อมจากศีล
๕. ความเสื่อมคือเห็นผิด
ดูกรอุบาลี ความเสื่อม ๕ นี้แล.
ความถึงพร้อม ๕
[๑๒๐๐] อุ. ความถึงพร้อมมีเท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า
พ. ดูกรอุบาลี ความถึงพร้อมนี้ มี ๕ อะไรบ้าง คือ:-
๑. ความถึงพร้อมด้วยญาติ
๒. ความถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์.
๓. ความถึงพร้อมด้วยความไม่มีโรค
๔. ความถึงพร้อมด้วยศีล
๕. ความถึงพร้อมด้วยเห็นชอบ
ดูกรอุบาลี ความถึงพร้อมมี ๕ นี้แล. มุสาวาทวรรคที่ ๗ จบ
หัวข้อประจำวรรค
[๑๒๐๑] มุสาวาท ๑ ย่ำยี ๑ ย่ำยีอีกนัยหนึ่ง ๑ ซักถาม ๑ อาบัติ ๑ อาบัติอีกนัยหนึ่ง ๑ เวร ๑ เจตนางดเว้น ๑ ความเสื่อม ๑ ความถึงพร้อม ๑ รวมเป็นวรรคที่ ๗ฯ
หัวข้อประจำวรรค จบ
องค์สำหรับลงโทษ
[๑๒๐๒] อุ. ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว พึงลงโทษได้ พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว พึงลงโทษ คือ ภิกษุณีสงฆ์ไม่พึงไหว้ภิกษุนั้น. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เปิดกายอวดภิกษุณีทั้งหลาย
๒. ถลกขาอ่อนอวดภิกษุณีทั้งหลาย
๓. เปิดองค์กำเนิดอวดภิกษุณีทั้งหลาย
๔. เปิดไหล่ทั้งสองอวดภิกษุณีทั้งหลาย
๕. พูดเคาะภิกษุณี ชักจูงพวกคฤหัสถ์ให้สมสู่กับภิกษุณี
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว พึงลงโทษ คือ ภิกษุณีสงฆ์ไม่พึงไหว้ภิกษุนั้น.
ดูกรอุบาลี ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว พึงลงโทษ คือ ภิกษุณีสงฆ์ไม่พึงไหว้ภิกษุนั้น. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ขวนขวายเพื่อความเสื่อมลาภแห่งภิกษุณีทั้งหลาย
๒. ขวนขวายเพื่อความพินาศแห่งภิกษุณีทั้งหลาย
๓. ขวนขวายเพื่อความอยู่ไม่ได้แห่งภิกษุณีทั้งหลาย
๔. ด่าบริภาษภิกษุณีทั้งหลาย
๕. ยุยงภิกษุกับภิกษุณีให้แตกกัน
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว พึงลงโทษ คือ ภิกษุณีสงฆ์ไม่พึงไหว้ภิกษุนั้น.
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว พึงลงโทษ คือ ภิกษุณีสงฆ์ไม่พึงไหว้ภิกษุนั้น. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ขวนขวายเพื่อความเสื่อมลาภแห่งภิกษุณีทั้งหลาย
๒. ขวนขวายเพื่อความพินาศแห่งภิกษุณีทั้งหลาย
๓. ขวนขวายเพื่อความอยู่ไม่ได้แห่งภิกษุณีทั้งหลาย
๔. ด่าบริภาษภิกษุณีทั้งหลาย
๕. ชักจูงภิกษุให้สมสู่กับภิกษุณีทั้งหลาย
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว พึงลงโทษ คือ ภิกษุณีสงฆ์ไม่พึงไหว้ภิกษุนั้น.
องค์สำหรับลงโทษภิกษุณี
[๑๒๐๓] อุ. ภิกษุณีประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล สงฆ์พึงลงโทษ พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงลงโทษแก่ภิกษุณีประกอบด้วยองค์ ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เปิดกายอวดภิกษุทั้งหลาย
๒. ถลกขาอ่อนอวดภิกษุทั้งหลาย
๓. เปิดองค์กำเนิดอวดภิกษุทั้งหลาย
๔. เปิดไหล่ทั้งสองอวดภิกษุทั้งหลาย
๕. พูดเคาะภิกษุ ชักจูงให้สมสู่กับสตรีคฤหัสถ์
ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงลงโทษแก่ภิกษุณีประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล.
ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงลงโทษแก่ภิกษุณีประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ขวนขวายเพื่อความเสื่อมลาภแห่งภิกษุทั้งหลาย
๒. ขวนขวายเพื่อความพินาศแห่งภิกษุทั้งหลาย
๓. ขวนขวายเพื่อความอยู่ไม่ได้แห่งภิกษุทั้งหลาย
๔. ด่าบริภาษภิกษุทั้งหลาย
๕. ยุยงภิกษุณีกับภิกษุทั้งหลายให้แตกกัน
ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงลงโทษแก่ภิกษุณีประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล.
ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงลงโทษแก่ภิกษุณีผู้ประกอบด้วยองค์ แม้อื่นอีก ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ขวนขวายเพื่อความเสื่อมลาภแห่งภิกษุทั้งหลาย
๒. ขวนขวายเพื่อความพินาศแห่งภิกษุทั้งหลาย
๓. ขวนขวายเพื่อความอยู่ไม่ได้แห่งภิกษุทั้งหลาย
๔. ด่าบริภาษภิกษุทั้งหลาย
๕. ชักจูงภิกษุณีให้สมสู่กับภิกษุ
ดูกรอุบาลี สงฆ์พึงลงโทษแก่ภิกษุณีประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล.
องค์ของภิกษุไม่ควรให้โอวาท
[๑๒๐๔] อุ. ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นอลัชชี
๒. เป็นพาล
๓. ไม่ใช่ปกตัตตะ
๔. เป็นผู้พูดประสงค์ให้เคลื่อนจากพรหมจรรย์
๕. หาใช่เป็นผู้พูดประสงค์ให้ออกจากอาบัติไม่
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย.
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นผู้มีความประพฤติทางกายไม่บริสุทธิ์
๒. เป็นผู้มีความประพฤติทางวาจาไม่บริสุทธิ์
๓. เป็นผู้มีอาชีวะไม่บริสุทธิ์
๔. เป็นผู้เขลา ไม่ฉลาด
๕. ถูกซักเข้า ไม่สามารถให้คำตอบข้อที่ซักถาม
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย.
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ แม้อื่นอีก ๕ ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นผู้ประกอบด้วยอนาจารทางกาย
๒. เป็นผู้ประกอบด้วยอนาจารทางวาจา
๓. เป็นผู้ประกอบด้วยอนาจารทางกายและวาจา
๔. ด่าบริภาษภิกษุณีทั้งหลาย
๕. คลุกคลีกับภิกษุณีทั้งหลาย ด้วยการคลุกคลีอันไม่สมควรอยู่
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย.
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นอลัชชี
๒. เป็นพาล
๓. ไม่ใช่ปกตัตตะ
๔. เป็นผู้ก่อความบาดหมาง ก่อความทะเลาะ
๕. เป็นผู้ไม่ทำให้บริบูรณ์ในสิกขา
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย.
องค์ของภิกษุผู้ไม่ควรรับให้โอวาท
[๑๒๐๕] อุ. ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล ไม่พึงรับให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ไม่พึงรับให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นผู้ประกอบด้วยอนาจารทางกาย
๒. เป็นผู้ประกอบด้วยอนาจารทางวาจา
๓. เป็นผู้ประกอบด้วยอนาจารทางกายและวาจา
๔. ด่าบริภาษภิกษุณี
๕. เป็นผู้คลุกคลีกับภิกษุณีทั้งหลาย ด้วยการคลุกคลีอันไม่สมควรอยู่
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงรับให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย.
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ ไม่พึงรับให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นอลัชชี
๒. เป็นพาล
๓. ไม่ใช่ปกตัตตะ
๔. เป็นผู้เตรียมจะไป
๕. อาพาธ
ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ไม่พึงรับให้โอวาทแก่ภิกษุณีทั้งหลาย.
องค์ของภิกษุผู้ไม่ควรสนทนาด้วย
[๑๒๐๖] อุ. ภิกษุทั้งหลายไม่พึงสนทนากับภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล พระพุทธเจ้าข้า?
พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายไม่พึงสนทนากับภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นผู้ไม่ประกอบด้วยกองศีล ของพระอเสขะ
๒. เป็นผู้ไม่ประกอบด้วยกองสมาธิ ของพระอเสขะ
๓. เป็นผู้ไม่ประกอบด้วยกองปัญญา ของพระอเสขะ
๔. เป็นผู้ไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติ ของพระอเสขะ
๕. เป็นผู้ไม่ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ ของพระอเสขะ
ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายไม่พึงสนทนากับภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล.
องค์ของภิกษุผู้ควรสนทนาด้วย
ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายพึงสนทนากับภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. เป็นผู้ประกอบด้วยกองศีล ของพระอเสขะ
๒. เป็นผู้ประกอบด้วยกองสมาธิ ของพระอเสขะ
๓. เป็นผู้ประกอบด้วยกองปัญญา ของพระอเสขะ
๔. เป็นผู้ประกอบด้วยกองวิมุตติ ของพระอเสขะ
๕. เป็นผู้ประกอบด้วยกองวิมุตติญาณทัสสนะ ของพระอเสขะ
ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายพึงสนทนากับภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล.
องค์ของภิกษุผู้ไม่ควรสนทนาอีกนัยหนึ่ง
ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายไม่พึงสนทนากับภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:-
๑. ไม่เป็นผู้บรรลุอรรถปฏิสัมภิทา
๒. ไม่เป็นผู้บรรลุธรรมปฏิสัมภิทา
๓. ไม่เป็นผู้บรรลุนิรุตติปฏิสัมภิทา
๔. ไม่เป็นผู้บรรลุปฏิภาณปฏิสัมภิทา
๕. ไม่พิจารณาจิตตามที่วิมุติ
ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายไม่พึงสนทนากับภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล. องค์ของภิกษุผู้ควรสนทนาด้วย ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายพึงสนทนากับภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. เป็นผู้บรรลุอรรถปฏิสัมภิทา ๒. เป็นผู้บรรลุธรรมปฏิสัมภิทา ๓. เป็นผู้บรรลุนิรุตติปฏิสัมภิทา ๔. เป็นผู้บรรลุปฏิภาณปฏิสัมภิทา ๕. พิจารณาจิตตามที่วิมุติ ดูกรอุบาลี ภิกษุทั้งหลายพึงสนทนากับภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล. ภิกขุนีโอวาทวรรค ที่ ๘ จบ หัวข้อประจำวรรค [๑๒๐๗] ภิกษุณีฝ่ายเดียวพึงลงโทษ ๑ ภิกษุณีพึงลงโทษอีก ๒ นัย ลงโทษภิกษุณี ๓ อย่าง ๑ ไม่ให้โอวาท ๑ ไม่ให้โอวาทอีก ๒ นัย ๑ ไม่รับให้โอวาทตรัสไว้ ๒ อย่าง ๑ ใน การสนทนาตรัสไว้ ๒ หมวด ๑ฯไม่สมมติด้วยอุพพาหิกา[๑๒๐๘] อุ. ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา พระพุทธเจ้าข้า? พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. เป็นผู้ไม่ฉลาดในอรรถ ๒. เป็นผู้ไม่ฉลาดในธรรม ๓. เป็นผู้ไม่ฉลาดในนิรุตติ ๔. เป็นผู้ไม่ฉลาดในพยัญชนะ ๕. เป็นผู้ไม่ฉลาดในคำต้นและคำหลัง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. สมมติด้วยอุพพาหิกา ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. เป็นผู้ฉลาดในอรรถ ๒. เป็นผู้ฉลาดในธรรม ๓. เป็นผู้ฉลาดในนิรุตติ ๔. เป็นผู้ฉลาดในพยัญชนะ ๕. เป็นผู้ฉลาดในคำต้นและคำหลัง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. ไม่สมมติด้วยอุพพาหิกาอีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. เป็นผู้มักโกรธ ถูกความโกรธครอบงำ ๒. เป็นผู้ลบหลู่ ถูกความลบหลู่ครอบงำ ๓. เป็นผู้ตีเสมอ ถูกความตีเสมอครอบงำ ๔. เป็นผู้มีปกติริษยา ถูกความริษยาครอบงำ ๕. เป็นผู้ถือแต่ความเห็นของตน ถืออย่างแน่นแฟ้นปลดได้ยาก ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. สมมติด้วยอุพพาหิกา ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. ไม่เป็นผู้มักโกรธ ไม่ถูกความโกรธครอบงำ ๒. ไม่เป็นผู้ลบหลู่ ไม่ถูกความลบหลู่ครอบงำ ๓. ไม่เป็นผู้ตีเสมอ ไม่ถูกความตีเสมอครอบงำ ๔. ไม่เป็นผู้มีปกติริษยา ไม่ถูกความริษยาครอบงำ ๕. ไม่เป็นผู้ถือแต่ความเห็นของตน ไม่ถืออย่างแน่นแฟ้น ปลดได้ง่าย ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. ไม่สมมติด้วยอุพพาหิกาอีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. โกรธ ๒. พยาบาท ๓. เบียดเบียน ๔. ยั่วให้โกรธ ๕. ไม่อดทน ไม่รับอนุสาสนีโดยเคารพ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. สมมติด้วยอุพพาหิกา ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. ไม่โกรธ ๒. ไม่พยาบาท ๓. ไม่เบียดเบียน ๔. ไม่ยั่วให้โกรธ ๕. เป็นผู้อดทน มีปกติรับอนุสาสนีโดยเคารพ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. ไม่สมมติด้วยอุพพาหิกาอีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. เป็นผู้ล่อให้หลง ให้ระลึกไม่ได้ ๒. เป็นผู้พูดไม่ให้ทำโอกาส ๓. ไม่เป็นผู้โจทตามอาบัติในธรรมและวินัยที่สมควร ๔. ไม่เป็นผู้ปรับตามอาบัติในธรรมและวินัยที่สมควร ๕. ไม่ชี้แจงตามความเห็น ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. สมมติด้วยอุพพาหิกา ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. เป็นผู้เตือนให้ระลึก ไม่ใช่ล่อให้หลง ๒. เป็นผู้พูดให้ทำโอกาส ๓. เป็นผู้โจทตามอาบัติในธรรมและวินัยที่สมควร ๔. เป็นผู้ปรับตามอาบัติในธรรมและวินัยที่สมควร ๕. ชี้แจงตามความเห็น ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. ไม่สมมติด้วยอุพพหิกาอีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. ถึงฉันทาคติ ๒. ถึงโทสาคติ ๓. ถึงโมหาคติ ๔. ถึงภยาคติ ๕. เป็นอลัชชี ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. สมมติด้วยอุพพาหิกา ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ ๑. ไม่ถึงฉันทาคติ ๒. ไม่ถึงโทสาคติ ๓. ไม่ถึงโมหาคติ ๔. ไม่ถึงภยาคติ ๕. เป็นลัชชี ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. ไม่สมมติด้วยอุพพาหิกาอีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. ถึงฉันทาคติ ๒. ถึงโทสาคติ ๓. ถึงโมหาคติ ๔. ถึงภยาคติ ๕. ไม่ฉลาดในวินัย ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์ไม่พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. สมมติด้วยอุพพาหิกา ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. ไม่ถึงฉันทาคติ ๒. ไม่ถึงโทสาคติ ๓. ไม่ถึงโมหาคติ ๔. ไม่ถึงภยาคติ ๕. ฉลาดในวินัย ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล สงฆ์พึงสมมติด้วยอุพพาหิกา. องค์ของภิกษุผู้โง่แท้ [๑๒๐๙] อุ. ภิกษุประกอบด้วยองค์เท่าไรหนอแล ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้ พระพุทธเจ้าข้า? พ. ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. ไม่รู้สุตตะ ๒. ไม่รู้สุตตานุโลม ๓. ไม่รู้วินัย ๔. ไม่รู้วินยานุโลม ๕. ไม่ฉลาดในฐานะและอฐานะ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ของภิกษุผู้ฉลาดแท้ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. รู้สุตตะ ๒. รู้สุตตานุโลม ๓. รู้วินัย ๔. รู้วินยานุโลม ๕. ฉลาดในฐานะและอฐานะ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ของภิกษุผู้โง่แท้อีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์แม้อื่นอีก ๕ ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. ไม่รู้ธรรม ๒. ไม่รู้ธรรมานุโลม ๓. ไม่รู้วินัย ๔. ไม่รู้วินยานุโลม ๕. ไม่ฉลาดในคำต้นและคำหลัง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ของภิกษุผู้ฉลาดแท้ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. รู้ธรรม ๒. รู้ธรรมานุโลม ๓. รู้วินัย ๔. รู้วินยานุโลม ๕. ฉลาดในคำต้นและคำหลัง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ของภิกษุผู้โง่แท้อีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ แม้อื่นอีก ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. ไม่รู้วัตถุ ๒. ไม่รู้นิทาน ๓. ไม่รู้บัญญัติ ๔. ไม่รู้บทอันตกหล่นภายหลัง ๕. ไม่รู้ทางถ้อยคำอันเข้าสนธิกันได้ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ของภิกษุผู้ฉลาดแท้ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. รู้วัตถุ ๒. รู้นิทาน ๓. รู้บัญญัติ ๔. รู้บทอันตกหล่นภายหลัง ๕. รู้ทางถ้อยคำอันเข้าสนธิกันได้ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ของภิกษุผู้โง่แท้อีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ แม้อื่นอีก ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. ไม่รู้อาบัติ ๒. ไม่รู้สมุฏฐานอาบัติ ๓. ไม่รู้ประโยคอาบัติ ๔. ไม่รู้ความระงับอาบัติ ๕. ไม่ฉลาดในการวินิจฉัยอาบัติ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ของภิกษุผู้ฉลาดแท้ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. รู้อาบัติ ๒. รู้สมุฏฐานอาบัติ ๓. รู้ประโยคอาบัติ ๔. รู้การระงับอาบัติ ๕. ฉลาดในการวินิจฉัยอาบัติ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ของภิกษุผู้โง่แท้อีกนัยหนึ่ง ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ แม้อื่นอีก ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ ๕ อะไรบ้าง? คือ:- ๑. ไม่รู้อธิกรณ์ ๒. ไม่รู้สมุฏฐานอธิกรณ์ ๓. ไม่รู้ประโยคอธิกรณ์ ๔. ไม่รู้ความระงับอธิกรณ์ ๕. ไม่ฉลาดในการวินิจฉัยอธิกรณ์ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้โง่แท้. องค์ของภิกษุผู้ฉลาดแท้ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ ถึงความนับว่า เป็นผู้ฉลาดแท้. องค์ ๕ อะไร บ้าง? คือ:- ๑. รู้อธิกรณ์ ๒. รู้สมุฏฐานอธิกรณ์ ๓. รู้ประโยคอธิกรณ์ ๔. รู้ความระงับอธิกรณ์ ๕. ฉลาดในการวินิจฉัยอธิกรณ์ ดูกรอุบาลี ภิกษุประกอบด้วยองค์ ๕ นี้แล ถึงความนับว่าเป็นผู้ฉลาดแท้. อุพพาหิกวรรคที่ ๙ จบ หัวข้อประจำวรรค [๑๒๑๐] ไม่ฉลาดในอรรถ ๑ มักโกรธ ๑ ยั่วให้โกรธ ๑ ล่อให้หลง ๑ ถึงฉันทา คติ ๑ ไม่ฉลาด ๑ ไม่ฉลาดอีก ๑ สุตตะ ๑ ธรรม ๑ วัตถุ ๑ อาบัติ ๑ อธิกรณ์ ๑ ฝ่ายละ ๒ๆ ท่านประกาศแล้วทั้งหมด ขอท่านทั้งหลายจงรู้ฝ่ายดำและฝ่ายขาวเทอญ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น