Translate

20 พฤศจิกายน 2568

หน้าต่างที่ ๔ / ๑๒. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๕๕. ภัททิยวรรค ๑๐. จูฬสุคันธเถราปทาน ๕๕๐. อรรถกถาจูฬสุคันธเถราปทาน

           เนื้อความในพระไตรปิฎก
           เนื้อความในอรรถกา มีทั้งหมด ๑๒ หน้าต่าง.
อรรถกถาหน้าต่างที่ [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]
                        ยสวรรคที่ ๕๖#-         
                        คยากัสสปเถราปทานที่ ๓ (๕๕๓)         
                        ว่าด้วยบุพจริยาของพระคยากัสสปเถระ #- วรรคนี้ในบาลีไทย ขาดหายไป แต่ของฉบับภาษาอื่นและอรรถกถา (มีอยู่) จึงนำมาเพิ่มให้ครบ พร้อมทั้งเพิ่มเลขข้อต่อจากข้อ ๑๔๐ ไปตามลำดับ. 
                     [๑๔๓] ครั้งเมื่อข้าพเจ้าเป็นดาบส ครอง 
               หนังเสือเหลือง ประกอบด้วยเครื่องหาบ หาบ 
               เครื่องหาบไปเที่ยวหาผลไม้ ได้นำเอาผลพุทรา 
               มายังอาศรม. 
                     ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพระชินเจ้า 
               เพียงพระองค์เดียว ทรงแผ่พระรัศมีตลอดกาล 
               ทั้งสิ้น เสด็จมายังอาศรมของข้าพเจ้า. 
                     ข้าพเจ้ายังจิตตนเองให้เลื่อมใสแล้ว ถวาย 
               บังคมพระองค์ ผู้มีวัตรอันงาม ประคองอัญชลี 
               ประนมด้วยหัตถ์ทั้งสองแล้ว ถวายผลพุทราแด่ 
               พระพุทธเจ้า. 
                     ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ ข้าพเจ้าได้ถวาย 
               ผลไม้ใดไว้ ในคราวนั้น แต่นั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จัก 
               ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายผลพุทรา 
                     ข้าพเจ้า ได้เผากิเลสทั้งหลายสิ้นแล้ว 
               ฯลฯ เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่. 
                     ข้าพเจ้าเป็นผู้มาดีแล้วแล ฯลฯ คำสอน 
               ของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว 
                     ปฏิสัมภิทา ๔ ฯลฯ คำสอนของพระพุทธ 
               เจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว. 
         ทราบว่า ท่านพระคยากัสสปเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการฉะนี้แล.
จบคยากัสสปเถราปทาน
               ยศวรรคที่ ๕๖
               ๕๕๓. อรรถกถาคยากัสสปเถราปทาน
               พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๓ ดังต่อไปนี้ :- 
               อปทานของท่านพระคยากัสสปเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า อชินจมฺมวตฺโถหํ ดังนี้. 
               แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ. 
               ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ไป ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิขี ท่านได้บังเกิดในเรือนอันมีสกุล บรรลุนิติภาวะแล้วเพราะความที่ตนเองมีอัธยาศัยที่จะออกจากทุกข์ จึงละเพศฆราวาสออกบวชเป็นพระดาบส สร้างอาศรมอยู่ในป่า มีมูลผลาผลในป่าเป็นอาหาร. 
               ก็โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์เดียว ไม่มีผู้ติดตามเป็นที่สอง ได้เสด็จไปใกล้อาศรมของพระดาบสนั้นแล้ว. ดาบสนั้น พอได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็มีใจเลื่อมใส เข้าไปใกล้แล้ว ถวายบังคมยืนอยู่ ณ ที่อันสมควรด้านหนึ่ง คอยดูเวลาอยู่จึงน้อมเอาผลพุทราอันเป็นที่น่าจับใจเข้าไปถวายแด่พระศาสดา. 
               ด้วยบุญกรรมอันนั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก. 
               ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้เกิดในตระกูลพราหมณ์ เจริญวัยแล้ว เพราะความที่ตนมีอัธยาศัยที่จะออกจากทุกข์ จึงละเพศฆราวาส บวชเป็นพระดาบสอยู่ร่วมกับพระดาบส ๒๐๐ องค์ ณ ใกล้แม่น้ำคยา. 
               เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำคยา และเพราะมีโคตรว่ากัสสป จึงได้มีสมัญญาว่าคยากัสสป. 
               ท่านได้ฟังโอวาทคืออาทิตตปริยายเทศนา โดยนัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาให้พร้อมกับบริษัท ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในอปทานของพระนทีกัสสป จึงได้ดำรงอยู่ในพระอรหัตผล. 
               ครั้นท่านได้บรรลุพระอรหัตแล้ว เกิดมีความโสมนัสใจเมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า อชินจมฺมวตฺโถหํ ดังนี้. 
               บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อชินจมฺมวตฺโถ ความว่า เพราะบวชเป็นดาบส จึงนุ่งห่มด้วยหนังเสือ. 
               บทว่า ขาริภารธโร ความว่า ในเวลาเป็นดาบส ต้องบรรจุหาบบริขารสำหรับดาบสหาบไป. คือเอาบริขารของดาบสบรรจุลงจนเต็มหาบ. 
               บทว่า โกลํ อหาสิ อสฺสมํ ความว่า เอาผลพุทราวางจนเต็มเกลื่อนอาศรมแล้วก็นั่งในอาศรม. 
               บทว่า อโคปยึ ความว่า เราได้แสวงหาผลพุทราแล้วเก็บรักษาไว้ในอาศรม. 
               คำที่เหลือทั้งหมดมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาคยากัสสปเถราปทาน

ไม่มีความคิดเห็น: