Translate

06 พฤศจิกายน 2568

พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ พุทธวงศ์-จริยาปิฎก อปทาน ชคติวรรคที่ ๔๖

ชคติทายกเถราปทานที่ ๑ ว่าด้วยผลแห่งการพรวนดินโคนต้นโพธิ
 [๔๑] เรามีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัส ได้ใช้ให้คนพรวนดินที่ไม้โพธิพฤกษ์ ของพระมหามุนีพระนามว่าธัมมทัสสี อันเป็นต้นไม้สูงสุดกว่าไม้ ทั้งหลาย เราพลาดจากภูเขาหรือตกจากต้นไม้จุติแล้ว ย่อมได้ที่พึ่ง นี้เป็นผลของดิน โจรไม่เบียดเบียนเรา กษัตริย์ก็ไม่ดูหมิ่นเรา เรา ก้าวล่วงข้าศึกได้ทุกคน นี้เป็นผลของดิน เราเข้าถึงกำเนิดใดๆ คือ เทวดาหรือมนุษย์ ในกำเนิดนั้นๆ เราย่อมเป็นผู้อันเขาบูชาทุกแห่ง ไป นี้ก็เป็นผลของดิน ในกัปที่ ๑,๘๐๐ เราได้ใช้ให้คนพรวนดิน ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลของดิน เราเผากิเลส ทั้งหลายแล้ว ...
                        พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระชคติทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
 จบ ชคติทายกเถราปทาน.
  
อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๔๖. ชคติวรรค ๑. ชคติทายกเถราปทาน
                     อรรถกถาชคติวรรคที่ ๔๖
                     ๕๕๑. อรรถกถาชคติทายกเถราปทาน         
                     พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๑ วรรคที่ ๔๖ ดังต่อไปนี้:- 
                     บทว่า ชคตึ การยึ อหํ ความว่า เราได้ทำระเบียงไว้รอบต้นโพธิพฤกษ์อันอุดม. 
                     อปทานทั้งหมดมีอปทานที่ ๒ เป็นต้นไปที่เหลือมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาชคติทายกเถราปทาน
โมรหัตถิยเถราปทานที่ ๒ ว่าด้วยผลแห่งการถวายกำหางนกยูง
 [๔๒] เราถือกำหางนกยูงเข้าไปเฝ้าพระโลกนายก เรามีจิตเลื่อมใสมีใจ โสมนัส ได้ถวายกำหางนกยูง ด้วยกำหางนกยูงนี้ และด้วยการ ตั้งเจตนาไว้ ไฟ ๓ กองของเราจึงดับสนิทแล้ว เราได้สุขอัน ไพบูลย์ โอ พระพุทธเจ้า โอ พระธรรม โอ สัมปทาแห่งพระ ศาสดาของเรา เราถวายกำหางนกยูงแล้ว ได้ความสุขอันไพบูลย์ ไฟ ๓ กองของเราดับสนิทแล้ว เราถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว อาสวะ ทั้งปวงหมดสิ้นไปแล้ว บัดนี้ภพใหม่มิได้มี ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ เราได้ถวายทานใดในกาลนั้นด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้ เป็นผลแห่งการถวายกำหางนกยูง เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
                        พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระโมรหัตถิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
 จบ โมรหัตถิยเถราปทาน.

อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๔๖. ชคติวรรค
๒. โมรหัตถิยเถราปทาน
                    อรรถกถาชคติวรรคที่ ๔๖
                    ๕๕๑. อรรถกถาชคติทายกเถราปทาน
                    พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๑ วรรคที่ ๔๖ ดังต่อไปนี้:- 
                    บทว่า ชคตึ การยึ อหํ ความว่า เราได้ทำระเบียงไว้รอบต้นโพธิพฤกษ์อันอุดม. 
                    อปทานทั้งหมดมีอปทานที่ ๒ เป็นต้นไปที่เหลือมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาชคติทายกเถราปทาน
สีหาสนพีชิยเถราปทานที่ ๓ ว่าด้วยผลแห่งการพัดพุทธอาสน์
 [๔๓] เราได้ไหว้โพธิพฤกษ์ของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าติสสะ ได้ถือเอา พัดวีชนีพัดอาสนะทองในที่นั้น ในกัปที่ ๙๒ แต่กัปนี้ เราได้ถวาย พัดทอง ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลของการพัด เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
                        พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระสีหาสนพีชิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
 จบ สีหาสนพีชิยเถราปทาน.
อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๔๖. ชคติวรรค ๓. สีหาสนพีชิยเถราปทาน
                     อรรถกถาชคติวรรคที่ ๔๖
                     ๕๕๑. อรรถกถาชคติทายกเถราปทาน         
                     พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๑ วรรคที่ ๔๖ ดังต่อไปนี้:- 
                     บทว่า ชคตึ การยึ อหํ ความว่า เราได้ทำระเบียงไว้รอบต้นโพธิพฤกษ์อันอุดม. 
                     อปทานทั้งหมดมีอปทานที่ ๒ เป็นต้นไปที่เหลือมีเนื้อความง่ายทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาชคติทายกเถราปทาน
ติณุกกธาริยเถราปทานที่ ๔ ว่าด้วยผลแห่งการทำคบเพลิงบูชา
 [๔๔] เราเป็นผู้มีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัส ได้ชูคบเพลิงไว้ ๓ ดวง ที่ไม้ โพธิพฤกษ์ ของพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ซึ่งเป็นไม้สูงสุด กว่าไม้ทั้งหลาย ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้บูชาคบเพลิงใด ด้วย การชูคบเพลิงนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลของการให้คบเพลิง เป็นทาน เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... 
                        พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จ แล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระติณุกกธาริยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
 จบ ติณุกกธาริยเถราปทาน.
อักกมนทายกเถราปทานที่ ๕ ว่าด้วยผลแห่งการเหยียบนวด
 [๔๕] เราได้ถวายการเหยียบแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ ผู้เป็น นักปราชญ์ มีบาปอันลอยเสียแล้ว ทรงอยู่จบพรหมจรรย์ ซึ่ง กำลังเสด็จดำเนินไปสู่ที่พักกลางวัน ในกัปนี้เองเราได้ถวายทานใด ในกาลนั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการ ถวายเหยียบ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
                        พระพุทธศาสนาเราได้ทำ เสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระอักกมนทายกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
 จบ อักกมนทายกเถราปทาน.
 วนโกรัณฑิยเถราปทานที่ ๖ ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกหางช้าง
 [๔๖] เราถือเอาดอกหางช้างป่ามาบูชาพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า พระนามว่า สิทธัตถะ ผู้ประเสริฐสุดกว่าโลก ผู้คงที่ ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้เอาดอกไม้ใดบูชา ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้ เป็นผลแห่งพุทธบูชาเราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... 
                        พระพุทธศาสนา เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระวนโกรัณฑิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ วนโกรัณฑิยเถราปทาน.
 จบ ภาณวารที่ ๒๐
เอกฉัตติยเถราปทานที่ ๗ ว่าด้วยผลแห่งการกั้นร่มถวายพระพุทธองค์
 [๔๗] แผ่นดินร้อนดังเพลิง แผ่นดินดุจมีเถ้ารึงไหล พระผู้มีพระภาคพระ นามว่าปทุมุตระ เสด็จจงกรมอยู่ที่กลางแจ้ง เรากั้นร่มขาวเดินทาง ไป ได้เห็นพระสัมพุทธเจ้าเข้าที่กลางแจ้งนั้น แล้วเกิดความคิด ขึ้นว่า ภูมิภาคถูกพยับแดดแผ่คลุม แผ่นดินนี้จึงกลายเป็นเหมือน ถ่านเพลิง ลมพายุใหญ่ที่ทำสรีรกายให้ลอยขึ้นได้ ตั้งขึ้นอยู่ หนาว ร้อน ย่อมทำให้ลำบาก ขอได้โปรดรับร่มนี้ อันเป็นเครื่องป้องกัน ลมและแดดเถิด ข้าพระองค์จักถูกต้องนิพพาน พระชินเจ้าพระ- นามว่าปทุมุตระผู้ทรงอนุเคราะห์ ประกอบด้วยพระกรุณา มี พระยศใหญ่ ทรงทราบความดำริของเราแล้ว ทรงรับไว้ในกาลนั้น เราได้เป็นจอมเทวดาเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๓๐ กัป ได้เป็น พระเจ้าจักรพรรดิราช ๕๐๐ ครั้ง และได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอัน ไพบูลย์ โดยคณนานับมิได้ เราได้เสวยกรรมของตนซึ่งตนได้ก่อ สร้างไว้ดีแล้วในปางก่อน นี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา ภพที่สุดกำลัง เป็นไป ถึงทุกวันนี้ชนทั้งหลายก็พากันกั้นเศวตฉัตรให้เราตลอดกาล ทุกเมื่อ ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้ถวายร่มนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายร่ม เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
                        พระพุทธ ศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระเอกฉัตติยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
 จบ เอกฉัตติยเถราปทาน.
 ชาติปุปผิยเถราปทานที่ ๘ ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกมะลิ
 [๔๘] เมื่อพระผู้มีพระภาคพระนามว่าปทุมุตระ ผู้มีพระยศใหญ่ปรินิพพาน แล้ว เราได้เอาผอบอันเต็มด้วยดอกไม้ไปบูชาพระสรีระ เรา ยังจิตให้เลื่อมใสในบุญกรรมนั้นแล้ว ได้ไปสู่สวรรค์ชั้นนิมมานรดี เราถึงจะไปอยู่ยังเทวโลก ก็ยังประพฤติบุญกรรมอยู่ ฝนดอกไม้ตก จากฟากฟ้าเพื่อเราตลอดกาลทั้งปวง เราสมภพในมนุษย์ก็เป็นพระ ราชาผู้มียศใหญ่ ในอัตภาพนั้น ฝนดอกโกสุมตกลงมาเพื่อเราทุกเมื่อ เพราะอำนาจที่เอาดอกไม้บูชาที่พระกายของพระพุทธเจ้าผู้ทรงเห็น เหตุทั้งปวง นี้เป็นความเกิดครั้งสุดท้ายของเรา ภพที่สุดกำลังเป็น ไป ถึงทุกวันนี้ ฝนดอกไม้ก็ตกลงมาเพื่อเราทุกเวลา ในกัปที่แสน แต่กัปนี้ เราเอาดอกไม้ใดบูชา ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระสรีระ เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
                        พระ พุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระชาติปุปผิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล
 จบ ชาติปุปผิยเถราปทาน.
สัตติปัณณิยเถราปทานที่ ๙ ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกสัตตบรรณ
 [๔๙] เมื่อมหาชนช่วยกันนำพระสรีระของพระพุทธเจ้าไป เมื่อกลอง บรรเลงอยู่ เรามีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัส ได้เอาดอกสัตตบรรณ บูชา ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้เอาดอกไม้ใดมาบูชา ด้วยการบูชา นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาพระสรีระ เราเผา กิเลสทั้งหลายแล้ว ... พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้วดังนี้. ทราบว่า ท่านพระสัตติปัณณิยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล. จบ สัตติปัณณิยเถราปทาน
 คันธปูชกเถราปทานที่ ๑๐ ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยของหอม
 [๕๐] เมื่อมหาชนกำลังช่วยกันทำจิตกาธารอยู่ และเมื่อของหอมนานา ชนิดถูกนำเอามา เรามีจิตเลื่อมใสมีใจโสมนัส ได้เอาของหอม กำมือหนึ่งบูชา ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ เราได้บูชาจิตกาธารใด ด้วย การบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการบูชาจิตกาธาร เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ...
                        พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
                        ทราบว่า ท่านพระคันธปูชกเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ คันธปูชกเถราปทาน.
รวมอปทานที่มีในวรรคนี้ คือ
            ๑. ชคติทายกเถราปทาน ๖. วนโกรัณฑิยเถราปทาน
            ๒. โมรหัตถิยเถราปทาน ๗. เอกฉัตติเถราปทาน
            ๓. สีหาสนพีชิยเถราปทาน ๘. ชาติปุปผิยเถราปทาน
            ๔. ติณุกกธาริยเถราปทาน ๙. สัตติปัณณิยเถราปทาน
            ๕. อักกมนทายกเถราปทาน ๑๐. คันธปูชกเถราปทาน
                        บัณฑิตคำนวณคาถาได้ ๖๕ คาถา.
จบ ชคติทายกวรรคที่ ๔๖

ไม่มีความคิดเห็น: