![]() |
|
ประพฤติพรหมจรรย์ตราบเท่าสิ้นชีวิต จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว เพราะ
กรรมที่ทำไว้ดีนั้น และเพราะการตั้งเจตน์จำนงไว้ เราละร่างมนุษย์
นั้นแล้ว ได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จุติจากนั้นแล้ว ได้เป็นนกพิราบ
อยู่ในป่า ภิกษุผู้สมบูรณ์ด้วยคุณ ยินดีในฌานทุกเมื่อ อาศัยอยู่ในป่า
นั้น ท่านเป็นผู้มีจิตเมตตาประกอบด้วยกรุณา มีหน้าเบิกบานทุกเมื่อ
วางเฉย มีความเพียรมาก ฉลาดในอัปปมัญญา มีความดำริปราศจาก
นิวรณ์ มีอัธยาศัยใคร่ประโยชน์แก่สรรพสัตว์ โดยไม่นาน เราคุ้น
เคยในพระสาวกของพระสุคตนั้น เมื่อเราเข้าไปจับอยู่แทบเท้าของ
ท่านผู้อ่านนั่งอยู่ในอาศรม ณ ครั้งนั้น บางครั้งท่านก็ให้เหยื่อ บางครั้ง
ท่านก็แสดงธรรมเทศนา ครั้งนั้น เราเข้าไปหาท่านผู้เป็นโอรสของ
พระพิชิตมารด้วยความรักอันไพบูลย์ จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้ไป
สวรรค์ปานดังจากที่อยู่แล้วกลับไปเรือนของตัว ฉะนั้น เราจุติจาก
สวรรค์แล้วเกิดในมนุษย์ด้วยบุญกรรม ได้ทิ้งเรือนออกบวชโดยมาก
เราเป็นสมณะ ดาบส พราหมณ์ ปริพาชกอยู่ในป่ากว่าร้อยชาติ ก็ใน
ภพสุดท้าย ในบัดนี้ เราหยั่งลงสู่ครรภ์ภรรยาของพราหมณ์วัจฉโคตร
ในพระนครกบิลพัสดุ์ อันน่ารื่นรมย์ เมื่อเรายังอยู่ในครรภ์ มารดา
ของเราแพ้ท้องในเวลาที่เราใกล้จะคลอด ท่านตัดสินใจที่จะอยู่ใน
ป่า ต่อนั้น มารดาของเราได้คลอดเราภายในป่าอันน่ารื่นรมย์ เมื่อ
เราออกจากครรภ์มารดา ชนทั้งหลายเอาผ้ากาสวะรับรองเราขณะนั้น
พระสิทธัตถราชกุมารผู้เป็นธงชัยของศากยวงศ์ ก็ประสูติ เราเป็น
สหายรักสนิทชิดชอบของพระองค์ เมื่อพระองค์ละยศอันไพบูลย์
เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เพื่อสาระประโยชน์แก่สัตว์ แม้เราก็บวช
แล้วเข้าไปสู่ป่าหิมพานต์ เราพบท่านพระกัสสปผู้อยู่ป่าน่าสรรเสริญ
บอกกล่าวธุดงค์ จึงได้สดับข่าวว่า พระพิชิตมารเสด็จอุบัติขึ้น
แล้วก็ได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้เป็นสารถีฝึกนระ พระองค์ได้ทรง
แสดงพระธรรมเทศนา ประกาศประโยชน์ทุกประการแก่เรา ต่อนั้น
เราก็ได้บวชแล้วเข้าไปป่าตามเดิม เมื่อเราอยู่ในป่านั้น เป็นผู้ไม่
ประมาทก็ได้เห็นอภิญญา ๖ โอ เราเป็นผู้มีลาภอันได้ดีแล้ว เป็น
ผู้อันพระศาสดาผู้เป็นกัลยาณมิตรทรงอนุเคราะห์แล้ว เราเผากิเลส
ทั้งหลายแล้ว ...
พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้วดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระวนวัจฉเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ วนวัจฉเถราปทาน.
อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๕๕. ภัททิยวรรค
๙. วนวัจฉเถราปทาน
๕๔๙. อรรถกถาวนวัจฉเถราปทาน
พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๙ ดังต่อไปนี้ :-
อปทานของท่านพระวนวัจฉเถระมีคำเริ่มต้นว่า อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ.
ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ท่านได้บังเกิดในเรือนอันมีสกุล บรรลุนิติภาวะแล้ว ได้สดับพระธรรมเทศนาของพระศาสดา เกิดศรัทธาบวชแล้ว ประพฤติพรหมจรรย์ได้อย่างบริสุทธิ์ จุติจากอัตภาพนั้นแล้ว ไปบังเกิดในเทวโลก จุติจากเทวโลกนั้นไปบังเกิดในกำเนิดนกพิราบ อยู่ใกล้พวกภิกษุผู้อยู่ในป่า.
เขามีเมตตาจิตในหมู่ภิกษุเหล่านั้น ได้ฟังธรรมจุติจากอัตภาพนั้น ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก.
ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ในกรุงกบิลพัสดุ์.
ในเวลาที่เขาอยู่ในท้องของมารดานั่นแลหะ มารดาได้เกิดการแพ้ท้อง เพื่อจะอยู่ใบป่า และเพื่อคลอดในป่า. การออกจากครรภ์ได้มีแก่มารดาผู้อยู่ในป่า ตามอำนาจแห่งความปรารถนานั้นแล้ว. และพวกญาติได้เอาท่อนผ้ารับเขาผู้คลอดจากครรภ์แล้ว.
เวลานั้นเป็นเวลาที่พระโพธิสัตว์ก็ได้ทรงอุบัติขึ้นแล้ว. พระราชาทรงมีรับสั่งให้พวกคนนำเด็กนั้นมาแล้ว เลี้ยงไว้ร่วมกับพระโพธิสัตว์.
ลำดับนั้น พระโพธิสัตว์เสด็จออกสู่พระมหาภิเนษกรมณ์ ผนวชแล้ว ทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยาตลอดเวลา ๖ ปี เมื่อเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว. นายวนวัจฉะนั้นไปหาพระมหากัสสปะเลื่อมใสแล้วในโอวาทของท่าน ได้ทราบจากสำนักของท่านว่าพระพุทธเจ้าทรงอุบัติแล้ว จึงไปเฝ้าพระศาสดา ได้ฟังธรรมแล้วจึงบวช ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์พร้อมด้วยอภิญญา ๖.
ท่านบรรลุพระอรหัตแล้วระลึกถึงบุรพกรรมของตน ได้เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า อิมมฺหิ ภทฺทเก กปฺเป ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น ในบทว่า พฺรหฺมพนฺธุ มหายโส นี้ได้แก่ เป็นพวกพร้องคือญาติของพวกพราหมณ์.
พึงทราบว่า ในเมื่อควรจะกล่าวว่า พฺราหฺมณพนฺธุ แต่ท่านได้กล่าวไว้ว่า พฺรหฺมพนฺธุ ก็เพื่อความสะดวกแก่การประพันธ์คาถา.
ชื่อว่า มหายโส เพราะมียศแผ่ปกคลุมไปในโลกทั้ง ๓.
คำที่เหลือทั้งหมดมีเนื้อความพอที่จะกำหนดได้โดยง่ายทีเดียวแล.
จบอรรถกถาวนวัจฉเถราปทาน


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น