ในเวลานั้น พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ผู้มีชื่อเสียงในอภิญญาอัน ใช้ได้อย่างอิสระ ความสง่างามและคุณความดี พร้อมด้วยพระมหาโพธิสัตว์จำนวนมากมาย ไม่มีขอบเขตจำกัด ไม่อาจบรรยายได้ ได้เดินทางมาจากทิศตะวันออก ทุกดินแดนที่ท่านผ่านมา สั่นสะเทือน ดอกบัวมณีโปรยปรายลงมา และมีการบรรเลงดนตรีต่าง ๆ มากมายหลายร้อยพันหมื่นล้านชนิดโดยตลอด
นอกจากนี้ยังมีหมู่เทวดา นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร ครุฑ กินนร มโหรคะ มนุษย์ และอมนุษย์ จำนวนนับไม่ถ้วน ได้แวดล้อมท่านในที่ประชุมใหญ่ คนเหล่านี้ต่างแสดงให้เห็นความสง่างาม คุณความดี และพลังเหนือธรรมดา เมื่อพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ได้มาถึงเขาคิชฌกูฏในสหาโลกธาตุ ท่านได้เข้าไปถวายอภิวาทแทบเบื้องยุคลบาทของพระศากยมุนีพุทธเจ้า และทำทักษิณาวรรตสามรอบแล้วได้ กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อข้าพระองค์อยู่ในพุทธเกษตรของพระพุทธเจ้า รัตนเตโชยุทคตราช อันอยู่ห่างไกลจากที่นี่ ข้าพระองค์ได้ยินการเทศนาพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรในสหาโลกธาตุนี้ ข้าพระองค์พร้อมด้วยหมู่พระโพธิสัตว์มากมายไม่มีขอบเขตจำกัดหลายร้อยพันหมื่นล้าน จึงได้มาที่นี่เพื่อที่จะได้สดับและน้อมรับพระสูตรนี้ไว้ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงโปรดสอนพระสูตรนี้แก่พวกข้าพระองค์ด้วยเถิด
อนึ่ง สาธุ ชนชายและหญิงในสมัยหลังจากพระตถาคตเจ้าเสด็จเข้าสู่ความดับแล้ว ทำอย่างไรพวกเขาจึงสามารถที่จะได้มาซึ่งพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรนี้ พระเจ้าข้า”
พระพุทธเจ้าได้ตรัสแก่พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ว่า “ในสมัยหลังจากพระตถาคตเจ้าได้เสด็จเข้าสู่ความดับแล้ว ถ้าสาธุชนชายและหญิงทั้งหลายทำเงื่อนไข ๔ ประการให้สำเร็จได้แล้ว พวกเขาก็สามารถที่จะได้มาซึ่งพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรนี้
ประการที่ ๑ พวกเขาจะต้องได้รับการคุ้มครองและรักษาไว้ในพระทัยของพระพุทธะทั้งหลาย
ประการที่ ๒ พวกเขาจะต้องปลูกฝังรากเหง้าแห่งความดีไว้เสมอ
ประการที่ ๓ พวกเขาจะต้องเข้าไปอยู่ในขั้นที่แน่นอนแห่งการเข้าถึงการตรัสรู้
ประการที่ ๔ พวกเขาจะต้องเกิดความตั้งใจแน่วแน่ที่จะช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์ ในสมัยหลังจากพระตถาคตเจ้าเสด็จเข้าสู่ความดับแล้ว ถ้าสาธุชนชายและหญิงทั้งหลายได้ทำเงื่อนไขทั้ง ๔ ประการนี้ ให้สำเร็จได้แล้ว พวกเขาจะได้พระสูตรนี้แน่นอน”
ในเวลานั้น พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ได้กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในสมัยชั่วร้ายและไม่บริสุทธิ์แห่งสมัยห้าร้อยปีสุดท้าย ถ้า มีผู้ใดน้อมรับและยึดถือพระสูตรนี้ ข้าพระองค์จะปกป้องคุ้มครองให้เขาเป็นอิสระจากความเสื่อมและอันตราย คอยดูว่าเขาจะได้รับความสงบและความเงียบ และทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครคอยจ้องฉวยโอกาสจากความบกพร่องของเขาได้ ไม่มีมาร บุตรมาร ธิดามาร เสนามาร หรือผู้ที่ถูกมารสิง ไม่มียักษ์ รากโษส กุมภัณฑ์ ปีศาจ กริตยะ ปุตนะ เวตาล หรือสัตว์อื่น ๆ ที่คอยทำความเดือดร้อนแก่มนุษย์ สามารถที่จะฉวยโอกาสทำอันตรายแก่เขาได้ “ไม่ว่าคนผู้นั้นกำลังเดินหรือกำลังยืนอยู่ ถ้าเขาอ่านและสวดพระสูตรนี้แล้ว
ในเวลานั้น ข้าพระองค์จะขี่ช้างเผือกหกงาพร้อมด้วยหมู่พระมหาโพธิสัตว์จะมายังที่อยู่ของเขา ข้าพระองค์จะแสดงตนให้ปรากฏถวายทาน ให้การปกป้องคุ้มครอง และทำความสบายใจให้แก่เขา ข้าพระองค์กระทำอย่างนี้ เพราะว่าข้าพระองค์ต้องการจะถวายเครื่องสักการะแด่พระสัทธรรมปุณฑริกสูตรด้วย เวลาใดเขานั่งไตร่ตรองพิจารณาพระสูตรนี้ เวลานั้นข้าพระองค์ก็จะทรงช้างเผือกอย่างกษัตริย์มาหาเขา และแสดงตนให้ปรากฏแก่เขาด้วย ถ้าคนผู้นั้นลืมวลีหนึ่งหรือคาถาหนึ่งของพระสัทธรรมปุณฑริกสูตร ข้าพระองค์จะบอกให้เขาทราบในทันที และร่วมกับเขาในการอ่านและการสวด เพื่อว่าเขาจะได้รับความเข้าใจ ในเวลานั้น ผู้ที่รับ ยึดถือ อ่าน และสวดพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรสามารถที่จะได้เห็นกายของข้าพระองค์
เมื่อเขาได้เห็นแล้วเขาจะมีความปีติยินดียิ่งนัก แล้วเขาจะได้อุทิศตนด้วยความขยันขันแข็งยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าเมื่อเขาได้เห็นข้าพระองค์แล้ว ในทันทีเขาจะได้สมาธิ และธารณี ธารณีเหล่านี้มีชื่อว่า ธารณียาวรตา โกฏีศตสหัสวรตา สรวรุตโกศัลยาวรตา เขาจะได้ธารณีเช่นธารณีเหล่านี้ “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ในสมัยข้างหน้า ในสมัยอันชั่วร้ายและไม่บริสุทธิ์แห่งสมัยห้าร้อยปีสุดท้าย ถ้าบรรดาภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกาผู้แสวงหา รับ ยึดถือ อ่าน สวด และคัดลอกพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรนี้ และปรารถนาที่จะปฏิบัติพระสูตรนี้แล้ว พวกเขาจะต้องปฏิบัติดังกล่าวอย่างมุมานะและด้วยใจเดียวเป็นเวลา ๒๑ วัน เมื่อครบ ๒๑ วันแล้ว
ข้าพระองค์จะทรงช้างเผือกหกงาแวดล้อมด้วยพระโพธิสัตว์จำนวนมากมาย และด้วยกายนี้อันเป็นกายที่สรรพสัตว์ทั้งหลายยินดีที่จะได้เห็น ข้าพระองค์จะสำแดงตนให้ปรากฏแก่คนผู้นั้นและสอนพระธรรมแก่เขา นำการสั่งสอน คุณประโยชน์ และความปีติยินดีมาให้แก่เขา ข้าพระองค์ยังจะมอบธารณีมนต์ให้แก่เขาด้วย และเพราะว่าเมื่อเขาได้รับมนต์เหล่านี้แล้ว จะ ไม่มีอมนุษย์ตนใดสามารถทำอันตรายแก่เขาได้ หรือเขาจะไม่ถูกสตรีเพศใดล่อลวงให้ลุ่มหลงได้ ข้าพระองค์ยังจะคุ้มครองเขาด้วยตนเองตลอดเวลา เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระ
องค์ได้ทรงโปรดให้ข้าพระองค์ได้ประกาศธารณีเหล่านี้เถิดพระเจ้าข้า”
ครั้นแล้ว ณ เบื้องพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ท่านได้ประกาศมนต์เหล่านี้ดังนี้ อทันเท ทันทปติ ทันทวรเต ทันทกุษเล ทันทสุธเร สุธเร สุธรปติ พุทธปัษยเนสรวธารณิ-อวรตนิ สรวภัษยวรตนิ สุ-อวรตนิ สังฆปริกษนิ สังฆนิรฆตนิ อสังเค สังคปคเต ตริอัธวสังคตุลย-อรเต-ปรัปเต สรวสังคสมติกรันเต สรวธรมสุปริกษิเต สรวสัตตวรุตโกศัลยนุคเต สิงหวิกริทิเต
“ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าพระโพธิสัตว์องค์ใดสามารถได้สดับธารณีเหล่านี้ เขาควรจะเข้าใจว่านั่นเกิดจากอภิญญาของพระสมันตภัทร ถ้าเมื่อใดพระสัทธรรมปุณฑริกสูตรได้เผยแพร่ไปทั่วชมพูทวีป มีพวกที่น้อมรับและยึดถือพระสูตรนี้ พวกเขาควรจะคิดกับตนเองดังนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพลังและอิทธิฤทธิ์ของพระสมันตภัทรทั้งสิ้น! ถ้ามีพวกที่รับ ยึดถือ อ่าน และสวดพระสูตรนี้ จดจำไว้อย่างถูกต้อง เข้าใจหลักการของพระสูตร และปฏิบัติตามที่พระสูตรได้สอนไว้แล้ว พวกเขาควรจะรู้ว่า พวกเขากำลังปฏิบัติการปฏิบัติของพระสมันตภัทรนั่นเอง ภายใต้พระพุทธะจำนวนมากมายไม่มีขอบเขตจำกัด พวกเขาจะได้ปลูกรากเหง้าที่ดีไว้ลึกในพื้นดินแล้ว และพระตถาคตเจ้าจะทรงใช้พระหัตถ์ตบเบา ๆ บนศีรษะของพวกเขา “ถ้าพวกเขาเพียงแต่ทำการคัดลอกพระสูตรเท่านั้น
เมื่อพวกเขาสิ้นชีวิตลง พวกเขาจะเกิดใหม่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในเวลานั้น จะมีหมู่เทพธิดา ๘๔,๐๐๐ องค์มาบรรเลงเครื่องดนตรีทุกชนิดคอยต้อนรับ คนเช่นนั้นจะได้สวมมงกุฎทำด้วยวัตถุมีค่า ๗ อย่าง และจะมีความรื่นเริงบันเทิงใจในหมู่เทพธิดาเหล่านั้น แล้วจะมีกว่านี้อีกสักเท่าใด ถ้าพวกเขารับ ยึดถือ อ่าน และสวดพระสูตรนี้ จดจำอย่างถูกต้อง เข้าใจหลักการ และปฏิบัติตามที่พระสูตรได้สอนไว้ ถ้ามีคนที่รับ ยึดถือ อ่าน สวด และเข้าใจหลักการของพระสูตรนี้แล้ว เมื่อคนอย่างนี้สิ้นชีวิตลง พระพุทธะหนึ่งพันพระองค์จะยื่นพระหัตถ์ออกมารับพวกเขาไว้ อันจะทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากความกลัวทั้งปวง และคุ้มครองมิให้พวกเขาตกลงสู่อบายภูมิ
แต่ในทันที พวกเขาจะมุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นดุสิต อันเป็นที่สถิตของพระเมตไตรยโพธิสัตว์ โน่นเทียว พระเมตไตรยโพธิสัตว์ผู้ทรงมีมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ และแวดล้อมอยู่ด้วยหมู่พระมหาโพธิสัตว์ พระองค์ทรง มีนางฟ้าบริวารมากมายหลายร้อยพันหมื่นล้าน และคนเหล่านี้จะได้เกิดใหม่ในท่ามกลางพวกเขา นั่นคือผลบุญ และประโยชน์ที่พวกเขาจะพึงได้รับ “เพราะฉะนั้น ท่านผู้มีปัญญาทั้งหลายควรจะตั้งใจคัดลอกด้วยตนเอง หรือทำให้ผู้อื่นคัดลอก ควรจะรับ ยึดถือ อ่าน และสวด จดจำไว้อย่างถูกต้อง และปฏิบัติตามที่พระสูตรนี้ได้สอนไว้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ดังนั้น ในเวลานี้ข้าพระองค์จะใช้อภิญญาปกป้องคุ้มครองพระสูตรนี้ และหลังจากพระตถาคตเจ้าเสด็จเข้าสู่ความดับแล้ว ข้าพระองค์จะทำให้พระสูตรนี้เผยแพร่กว้างไกลไปทั่วชมพูทวีป และจะคอยดูแลมิให้สิ้นสุดหยุดลงได้ พระเจ้าข้า”
ในเวลานั้น พระศากยมุนีพุทธเจ้าได้ตรัสสรรเสริญด้วยพระดำรัสนี้ว่า “ดีมาก ดีมาก สมันตภัทร! ท่านสามารถคุ้มครอง และช่วยเหลือพระสูตรนี้ และยังจะช่วยให้สรรพสัตว์มากมายได้รับความสงบสุข และผลประโยชน์ ท่านได้มาซึ่งบุญกุศลอันไม่อาจคาดคะเนได้ และมหาเมตตาและมหากรุณาอันลึกซึ้งเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากในอดีตกาลอันนานไกล ท่านได้แสดงความปรารถนาในอนุตตรสัมมาสัมโพธิ และยังได้ตั้งปณิธานที่จะใช้อภิญญาของท่านคอยปกป้องและคุ้มครองพระสูตรนี้ และเราก็จะใช้อภิญญาของเราปกป้องคุ้มครองผู้ที่สามารถน้อมรับและยึดถือนามของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ด้วย “สมันตภัทร ถ้ามีพวกที่รับ ยึดถือ อ่าน สวดพระสูตรนี้ จดจำไว้อย่างถูกต้อง ปฏิบัติตาม และคัดลอกพระสูตรนี้แล้ว ท่านควรจะทราบว่า คนเช่นนั้นได้เห็นพระศากยมุนีพุทธเจ้ามาแล้ว
มันเป็นดังว่า พวกเขาได้สดับพระสูตรนี้มาโดยตรงจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า ท่านควรจะทราบว่า คนเช่นนั้นได้ถวายทานแด่พระศากยมุนีพุทธเจ้ามาแล้ว ท่านควรจะทราบว่า คนเช่นนั้นได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าแล้วว่าผู้เป็นเลิศ ท่านควรจะทราบว่า คนเช่นนั้นได้ถูกตบศีรษะเบา ๆ แล้วโดยพระศากยมุนีพุทธเจ้า ท่านควรจะทราบว่า คนเช่นนั้นได้รับการปกคลุมไว้แล้วด้วยจีวรของพระศากยมุนีพุทธเจ้า “พวกเขาจะไม่มีความโลภหรือยึดติดอยู่กับโลกียสุขอีกต่อไป พวกเขาจะไม่นิยมในคัมภีร์หรือวรรณะคดีใด ๆ ที่ไม่เป็นพุทธธรรม พวกเขาจะไม่ยินดีในการสมาคมกับคนเช่นนั้นหรือกับคนที่มีอาชีพอันเป็นบาป เช่น คนฆ่าสัตว์ คนเลี้ยงหมู คนเลี้ยงแกะ หรือเลี้ยงไก่ หรือเลี้ยงหมา หรือพวกพ่อเล้าแม่เล้า
คนเหล่านี้จะมีความซื่อสัตย์และมีความเที่ยงตรงในใจและในเจตนา มีความจำถูกต้องแม่นยำ และจะมีพลังแห่งบุญกุศล พวกเขาจะไม่ถูกรบกวนด้วยพิษร้ายทั้งสาม หรือจะไม่ถูกรบกวนด้วยความริษยา ความสำคัญตนเอง ความทะนงตัว หรือความหยิ่งยโส
คนเหล่านี้จะมีความปรารถนาน้อย จะถูกทำให้พอใจได้อย่างง่าย ๆ และจะรู้ว่าจะปฏิบัติการปฏิบัติของพระสมันตภัทรอย่างไร “สมันตภัทร หลังจากพระตถาคตเจ้าเสด็จเข้าสู่ความดับแล้ว ในสมัยห้าร้อยปีสุดท้าย ถ้าท่านเห็นผู้ใดรับ ยึดถือ อ่าน และสวดพระสัทธรรมปุณฑริกสูตร ท่านควรจะคิดกับตนเองดังนี้ อีกไม่นานคนผู้นี้จะไปถึงสถานแห่งการปฏิบัติ พิชิตหมู่มาร และบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิ เขาจะหมุนจักรแห่งธรรม ตีกลองแห่งธรรม เป่าสังข์แห่งธรรม และหลั่งฝนแห่งธรรม เขามีค่าควรแก่การนั่งเหนือสีหบัลลังก์แห่งธรรมในท่ามกลางที่ประชุมใหญ่แห่งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย” “สมันตภัทร ในสมัยข้างหน้า ถ้ามีพวกที่รับ ยึดถือ อ่าน และสวดพระสูตรนี้แล้ว คนเช่นนั้นจะไม่มีความโลภหรือยึดติดในเครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน อาหารและเครื่องดื่ม หรือของจำเป็นในชีวิตประจำวันอื่น ๆ อีกต่อไป
ความปรารถนาของพวกเขาจะไม่ไร้ผล และในชาตินี้จะได้รับแต่ผลตอบแทนแห่งความโชคดี ถ้ามีผู้ใดดูถูกหรือเหยียดหยามพวกเขาด้วยการกล่าวว่า ‘แกมันเป็นเพียงไอ้คนบ้า! ไม่มี
ประโยชน์อะไรที่แกจะปฏิบัติการปฏิบัติเหล่านี้ ในที่สุดแกก็จะไม่ได้รับอะไรเลย!’ ดังนี้ แล้วคนผู้นั้นจะได้รับโทษแห่งบาปของเขาด้วยการไปเกิดใหม่ไม่มีตา ชาติแล้วชาติเล่า แต่ถ้ามีผู้ใดบริจาคทานแก่พวกเขาและกล่าวสรรเสริญพวกเขาแล้ว เขาผู้นั้นจะได้รับผลตอบแทนชนิดที่เห็นได้ชัดในชาติปัจจุบันนี้ “ถ้าผู้ใดได้เห็นคนที่รับและยึดถือพระสูตรนี้แล้ว พยายามที่จะเปิดเผยความผิดหรือความชั่วของคนผู้นั้น
ไม่ว่าเรื่องที่พูดจะเป็นจริงหรือเป็นเท็จก็ตาม ในชาติปัจจุบันนี้ เขาจะได้รับความทุกข์ทรมานด้วยโรคเรื้อนน้ำเต้า ถ้าผู้ใดดูถูกหรือหัวเราะเยาะคนผู้นั้นแล้ว ในชาติแล้วชาติเล่า เขาจะเกิดมามีฟันหักหรือฟันห่าง ริมฝีปากน่าเกลียด จมูกแฟบ แขนขาบิดเกหรือพิการ และตาเหล่ ร่างกายของเขาจะมีกลิ่นเหม็น มีแผลพุพองน้ำเลือดน้ำหนองไหล และจะทรมานด้วยโรคท้องมาน หายใจหอบถี่และเต็มไปด้วยโรคร้ายอื่น ๆ ทุกชนิด เพราะฉะนั้นสมันตภัทร ถ้าท่านเห็นผู้ใดที่รับและยึดถือพระสูตรนี้ ท่านจะต้องรีบลุกขึ้นต้อนรับเขาแต่ไกล แสดงความเคารพนับถือเขาให้เหมือนกับท่านกระทำต่อพระพุทธเจ้าทีเดียว” เมื่อบทการชักชวนและความตั้งใจพระสมันตภัทรโพธิสัตว์นี้ได้สอนจบลงแล้ว พระโพธิสัตว์มากมายไม่มีขอบเขตจำกัดดังเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา ได้ธารณีอันทำให้พวกเขาสามารถที่จะจดจำคำสอนได้ร้อยพันหมื่นล้านเที่ยว และ พระโพธิสัตว์มากมายเท่าเม็ดธุลีในสามพันพันใหญ่โลกธาตุได้ทำมรรคของพระสมันตภัทรให้สมบูรณ์
เมื่อพระพุทธเจ้าได้เทศนาพระสูตรนี้จบแล้ว พระสมันตภัทรและพระโพธิสัตว์อื่น ๆ พระสารีบุตรและพระสาวกอื่น ๆ รวมทั้งเหล่า
เทวดา นาค มนุษย์ และอมนุษย์ สมาชิกทั้งหมดแห่งที่ประชุมใหญ่ ต่างเต็มตื้นไปด้วยความปีติยินดียิ่งนัก ทั้งหมดได้น้อมรับและยึดถือพระโอวาทของพระพุทธเจ้า ครั้นแล้วต่างได้ถวายบังคมลาพระพุทธองค์ถอยออกไป