

🔊🔋⚡🐝🐝


[๕๐๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นพึงให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๐๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ ปิดบังอาบัติเหล่านั้นพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ไม่ได้ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดเธอ
ไม่รู้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้
ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดบัง
ไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๑๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดบัง
ไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ได้ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังไว้ใน
ภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วไม่ปิดบังในภายหลัง
อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังในภายหลังพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังไว้ในภายหลัง
อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแต่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังไว้ใน
ภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลังแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติ
เหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติ
เหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง
อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
[๕๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ ไม่สงสัยในอาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง
อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ
สึกบวชเป็นสามเณร
[๕๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึกบวชเป็นสามเณร เธออุปสมบทใหม่ ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึกบวชเป็นสามเณร เธออุปสมบทใหม่ ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้แล้วสึกบวชเป็นสามเณร เธออุปสมบทใหม่ ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้แล้วสึกบวชเป็นสามเณร เธออุปสมบทใหม่ ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติ ตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง
อาบัติเหล่าใดเธอไม่รู้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดเธอไม่รู้
ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คืออาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดเธอไม่รู้
ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอรู้ อาบัติบางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดเธอ
ไม่รู้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ อาบัติบางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่อาบัติเหล่าใดระลึกได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังไว้ ใน
ภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังไว้ใน
ภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังไว้ใน
ภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลังแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว คือ อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้ว
ปิดบังไว้ ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังไว้ ในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลังแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดสงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น
ในภายหลังอาบัติเหล่าใดสงสัยได้ไม่ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น
ในภายหลังอาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้น
ในภายหลังอาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกบวชเป็นสามเณรแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง
อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
วิกลจริต ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้ เธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้วไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นพึงให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้ เธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้วปิดบังอาบัติเหล่านั้นพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้ เธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้วไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้ เธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้วปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น
Spider-Man: Far From Homeสไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม พ.ศ. 2564 ‧ แอคชั่น/ไซไฟ ‧ 2 ชม. 28 นาที
(เตโช) ♬ธาตุไฟDescriptionสไปเดอร์แมน โนเวย์โฮม Spider Man No Way Home HD
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัยเธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่สงสัย ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่ สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่ สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัยเธอเกิดวิกลจริต ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่ สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้นมีจิตฟุ้งซ่าน ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวไม่ได้ปิดบังไว้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นพึงให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้วไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้วปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบัง ไว้เมื่อก่อนไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบัง ไว้เมื่อก่อนปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบัง ไว้เมื่อก่อนไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อ ก่อนปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวอาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้น ไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติ เหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติ เหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดเธอรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติ เหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง พึงให้ปริวาสในในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดระลึกได้ แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลังอาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลังพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใด ระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใด ระลึกได้ แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลังอาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลังแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดระลึก ได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ แล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลังแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่สงสัย ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังอาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนแล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังอาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอมีจิตฟุ้งซ่าน ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น กระสับกระส่ายเพราะเวทนา ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้ปริวาสในกองอาบัติ ตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวปิดบังไว้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว ปิดบังอาบัติเหล่านั้นพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนาครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติ เหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนาครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบัง ไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังไว้ในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบัง ไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบัง ไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังไว้ในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติ เหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังไว้ในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติ ตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้ว ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติ เหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้วอาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้วอาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ มานัตหนึ่งร้อย จบ สโมธานปริวาส สึกอุปสมบทใหม่ [๕๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม ฯ [๕๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกันเพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ปิดบังไว้แล้วสึก เธออุปสมบทใหม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นใน ภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิมและพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชัก ภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกันเพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชัก ภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้า ด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังพึงชัก ภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกันเพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ ไม่ได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิมและพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๓๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นไม่ปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอรู้ บางอย่างไม่รู้ปิดบังอาบัติที่รู้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ไม่รู้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดรู้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อนรู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดไม่รู้ไม่ได้ ปิดบังไว้เมื่อก่อน รู้อาบัติเหล่านั้นแล้วปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วไม่ ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ ไม่ปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ไม่ ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้ว ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้แล้วไม่ปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง อาบัติบางอย่างเธอระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ปิดบังอาบัติที่ระลึกได้ ไม่ปิดบังอาบัติที่ระลึกไม่ได้ เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดระลึกได้แล้วได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ แล้ว ปิดบังในภายหลัง อาบัติเหล่าใดระลึกไม่ได้ไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อนระลึกอาบัติเหล่านั้นได้ปิดบังในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ [๕๔๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาสต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอสึกแล้วอุปสมบทใหม่ อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่เธอ ฯ สึกบวชเป็นสามเณร[๕๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึกบวชเป็นสามเณร ...เกิดวิกลจริต ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้ เกิดวิกลจริต ...มีจิตฟุ้งซ่าน ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้ เป็นผู้มีจิตฟุ้งซ่านกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังอยู่ปริวาส ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ปิดบังไว้ กระสับกระส่ายเพราะเวทนา ... ... อาบัติเธอปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง พึงให้พิสดารเหมือน ปริวาส ... อาบัติบางอย่างรู้ บางอย่างไม่รู้ ... ... อาบัติบางอย่างระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ... ... ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้วอาบัติเหล่าใดเธอไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดเธอสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ... ... อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ได้ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ... ... อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ... ... อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่ภิกษุนั้น ฯ ควรมานัตเป็นต้นเวทนา[๕๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ควรมานัต ... [๕๕๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กำลังประพฤติมานัต ... [๕๕๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ควรอัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... ภิกษุผู้ควรมานัต ภิกษุผู้ประพฤติมานัต และภิกษุควรอัพภาน พึงให้พิสดารเหมือนภิกษุอยู่ปริวาส ฉะนั้น ฯ ควรอัพภานสึกบวชเป็นสามเณร[๕๕๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ควรอัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ปิดบังไว้แล้วสึกบวชเป็นสามเณร ... ควรอัพภานเกิดวิกลจริต ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ควรอัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้ เกิดวิกลจริต ... ควรอัพภานมีจิตฟุ้งซ่าน ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ควรอัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ได้ปิดบังไว้ มีจิตฟุ้งซ่าน ... ควรอัพภานกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ควรอัพภาน ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัวในระหว่าง ไม่ปิดบังไว้ กระสับกระส่ายเพราะเวทนา ... ... อาบัติของภิกษุนั้นปิดบังไว้บ้าง ไม่ได้ปิดบังไว้บ้าง ... อาบัติบางอย่างรู้ บางอย่างไม่รู้ ... อาบัติบางอย่างระลึกได้ บางอย่างระลึกไม่ได้ ... ไม่สงสัยในอาบัติบางอย่าง สงสัยในอาบัติบางอย่าง ปิดบังอาบัติที่ไม่สงสัย ไม่ปิดบังอาบัติที่สงสัย เธอกระสับกระส่ายเพราะเวทนา ครั้นหายแล้ว อาบัติเหล่าใด เธอไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลังอาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ... อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบัง อาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ... อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อนไม่สงสัยไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง ... อาบัติเหล่าใดไม่สงสัยได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง อาบัติเหล่าใดสงสัยไม่ได้ปิดบังไว้เมื่อก่อน ไม่สงสัยปิดบังอาบัติเหล่านั้นในภายหลัง พึงชักภิกษุนั้นเข้าหาอาบัติเดิม และพึงให้ปริวาสประมวลอาบัติตัวก่อนเข้าด้วยกัน เพื่ออาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่ภิกษุนั้น ฯ [๕๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว มีประมาณ ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... ไม่มีประมาณ ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... อาบัติมีชื่ออย่างเดียวกัน ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... อาบัติมีชื่อต่างๆ กัน ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... อาบัติเป็นสภาคกัน ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... อาบัติไม่เป็นสภาคกัน ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... อาบัติกำหนดได้ ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... อาบัติเจือกัน ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก ... ฯ ให้มานัตแก่ภิกษุ ๒ รูป[๕๕๕] ภิกษุ ๒ รูปต้องอาบัติสังฆาทิเสส พวกเธอมีความเห็นว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ปิดบังไว้ รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่ รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๕๖] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส พวกเธอสงสัยในอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้ รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๕๗] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส พวกเธอมีความเห็นในอาบัติสังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติเจือกัน รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกอง อาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๕๘] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติเจือกัน พวกเธอมีความเห็นในอาบัติเจือกันว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้ รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกอง อาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๕๙] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติเจือกัน พวกเธอมีความเห็นในอาบัติเจือกันว่า เป็นอาบัติเจือกัน รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้ รูปใดปิดบังไว้พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติ ตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๖๐] ภิกษุ ๒ รูป ต้องลหุกาบัติล้วน พวกเธอมีความเห็นในลหุกาบัติล้วนว่า เป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้ รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ พึงปรับทั้งสองรูปตามธรรม ฯ [๕๖๑] ภิกษุ ๒ รูป ต้องลหุกาบัติล้วน พวกเธอมีความเห็นในลหุกาบัติล้วนว่า เป็นลหุกาบัติล้วน รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้ รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ พึงปรับทั้งสองรูปตามธรรม ฯ [๕๖๒] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส พวกเธอมีความเห็นในอาบัติสังฆาทิเสสว่า เป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งคิดว่า จักบอก รูปหนึ่งคิดว่าจักไม่บอก เธอปิดบังไว้ถึงยามหนึ่งบ้าง ปิดบังไว้ถึงสองยามบ้าง ปิดบังไว้ถึงสามยามบ้าง เมื่ออรุณขึ้นแล้วเป็นอันปิดบังอาบัติ รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้นแล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๖๓] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส พวกเธอมีความเห็นในอาบัติสังฆาทิเสสว่า เป็นอาบัติสังฆาทิเสส จึงไปด้วยคิดว่าจักบอก รูปหนึ่งเกิดความลบหลู่ขึ้นในระหว่างทางว่า จักไม่บอก เธอปิดบังไว้ถึงยามหนึ่งบ้าง ปิดบังไว้ถึงสองยามบ้าง ปิดบังไว้ถึงสามยามบ้าง เมื่ออรุณขึ้นแล้ว เป็นอันปิดบังอาบัติรูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๖๔] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส พวกเธอมีความเห็นในอาบัติสังฆาทิเสสว่า เป็นอาบัติสังฆาทิเสส แล้วเกิดวิกลจริต ภายหลังหายวิกลจริตแล้ว รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้ รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดง อาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯ [๕๖๕] ภิกษุ ๒ รูป ต้องอาบัติสังฆาทิเสส พวกเธอเมื่อปาติโมกข์กำลังแสดงอยู่ กล่าวอย่างนี้ว่า พวกข้าพเจ้าทราบเดี๋ยวนี้เองแลว่า ได้ยินว่า ธรรมแม้นี้มาในสูตร นับเนื่องในสูตร มาสู่อุเทสทุกกึ่งเดือน พวกเธอมีความเห็นในอาบัติ สังฆาทิเสสว่า เป็นอาบัติสังฆาทิเสส รูปหนึ่งปิดบังไว้ รูปหนึ่งไม่ได้ปิดบังไว้รูปใดปิดบังไว้ พึงให้รูปนั้นแสดงอาบัติทุกกฏ และพึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้แก่รูปที่ปิดบังนั้น แล้วให้มานัตแก่ภิกษุทั้งสองรูป ฯยยคร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น