Translate

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 🌏☄️ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 🌏☄️ แสดงบทความทั้งหมด

04 เมษายน 2568

บทสวดมนต์ปัจจยวิภังค์ ดูหนังฝรั่ง - A Working Man (2025) นรกหยุดนรก

บทสวดมนต์ปัจจยวิภังค์ หรือ ปัจจยวิภังควาโร
(กดฟังได้ตรงนี้ หรือดูบทสวดกด อ่านเพิ่มเติม)
 

พระอภิธรรมปิฎก เล่ม ๗ เล่มที่ ๔๐

ปัจจยวิภังควาร  วาระว่าด้วยการแจก คือการอธิบายปัจัยทีละข้อ

(หันทะ มะยัง ปัจจะยะวิภังคะวาระปาฐัง ภะณามะ เส)
๑. เหตุปัจจะโยติ เหตุ เหตุ สัมปะยุตตะกานัง ธัมมานัง ตัง สะมุฏฐานานัญจะ รูปานัง เหตุ ปัจจะเยนะ ปัจจะโยติ ฯ
๒. อารัมมะณะปัจจะโยติ รูปายะตะนัง จักขุวิญญาณะธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ ปัจจะโย, สัททายะตะนัง โสตาวิญญาณะธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
คันธายะตะนัง ฆานะวิญญาณะธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ ปัจจะโย, ระสายะตะนัง ชิวหาวิญญาณะธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ ปัจจะโย, โผฏฐัพพายะตะนัง
กายะวิญญาณะธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ ปัจจะโย, รูปายะตะนัง สัททายะตะนัง คันธายะตะนัง ระสายะตะนัง โผฏฐัพพายะตะนัง มะโนธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ
ปัจจะโย, สัพเพ ธัมมา มะโนวิญญาณะธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ ปัจจะโย, ยัง ยัง ธัมมา อารัพภะ เย เย ธัมมา อุปปัชชันติ จิตตะเจตะสิกา ธัมมา เต เต ธัมมา เตสัง เตสัง ธัมมานัง อารัมมะณะปัจจะเยนะ ปัจจะโยติ ฯ
๓. อะธิปะติปัจจะโยติ ฉันทาธิปะติ ฉันทาสัมปะยุตตะกานัง ธัมมานัง ตัง สมุฏฐานานัญจะ รูปานัง อะธิปะติปัจจะเยนะ ปัจจะโย, วิริยาธิปะติ วิริยาสัมปะยุตตะกานัง ธัมมานัง ตัง สะมุฏฐานานัญจะ รูปานัง อะธิปะติปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
จิตตาธิปะติ จิตตาสัมปะยุตตะกานัง ธัมมานัง ตัง สะมุฏฐานานัญจะ รูปานัง อะธิปะติปัจจะเยนะ ปัจจะโย, วิมังสาธิปะติ วิมังสาสัมปะยุตตะกานัง ธัมมานัง ตัง สะมุฏฐานานัญจะ รูปานัง อะธิปะติปัจจะเยนะ ปัจจะโย, ยัง ยัง ธัมมัง คะรุง กัต๎วา เย เย ธัมมา อุปปัชชันติ จิตตะเจตะสิกา ธัมมา เต เต ธัมมา เตสัง เตสัง ธัมมานัง อะธิปะติปัจจะ เยนะ ปัจจะโย ฯ
๔. อะนันตะระปัจจะโยติ จักขุวิญญาณะธาตุ ตัง สัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย, มะโนธาตุ ตัง สัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนวิญญาณะธาตุยา ตัง สัมปะยุต
ตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย, โสตะวิญญาณะธาตุ ตัง สัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนธาตุยา ตัง สัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย, มะโนธาตุ ตังสัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนวิญญาณะธาตุยา ตังสัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๕. ฆานะวิญญาณะธาตุ ตังสัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนธาตุยา ตังสัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๖. มะโนธาตุ ตังสัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนวิญญาณะธาตุยา ตังสัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๗. ชิว๎หาวิญญาณะธาตุตัง สัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนธาตุยา ตังสัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๘. มะโนธาตุ ตังสัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนวิญญาณะธาตุยา ตังสัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๙. กายะวิญญาณะธาตุ ตังสัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนธาตุยา ตังสัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๑๐. มะโนธาตุ ตังสัมปะยุตตะกา จะ ธัมมา มะโนวิญญาณะธาตุยา ตังสัมปะยุตตะกานัญจะ ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๑๑. ปุริมา ปุริมา กุสะลา ธัมมา ปัจฉิมานัง ปัจฉิมานัง กุสะลานัง ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๑๒. ปุริมา ปุริมา กุสะลา ธัมมา ปัจฉิมานัง ปัจฉิมานัง อัพ๎ยากะตานัง ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๑๓. ปุริมา ปุริมา อะกุสะลา ธัมมา ปัจฉิมานัง ปัจฉิมานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๑๔. ปุริมา ปุริมา อะกุสะลา ธัมมา ปัจฉิมานัง ปัจฉิมานัง อัพ๎ยากะตานัง ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะปัจจะโย,
๑๕. ปุริมา ปุริมา อัพ๎ยากะตาธัมมาปัจฉิมานัง ปัจฉิมานัง อัพ๎ยากะตานัง ธัมมานังอะนันตะระปัจจะเยนะปัจจะโย,
๑๖. ปุริมา ปุริมา อัพ๎ยากะตา ธัมมา ปัจฉิมานัง ปัจฉิมานัง กุสะลานัง ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย,
๑๗. ปุริมา ปุริมา อัพ๎ยากะตา ธัมมา ปัจฉิมานัง ปัจฉิมานัง อะกุสะลานังธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะปัจจะโย,
๑๘. เยสัง เยสัง ธัมมานัง อะนันตะรา เย เย ธัมมา อุปปัชชันติ จิตตะเจตะสิกา ธัมมา, เต เต ธัมมา เตสัง เตสัง ธัมมานัง อะนันตะระปัจจะเยนะ ปัจจะโย(ติ)

๑.เหตุปัจจัย คือเหตุที่เป็นปัจจัยแห่งธรรมที่ประกอบกับเหตุ และแห่งรูปที่มีธรรมอันประกอบกับเหตุนั้นเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะ เป็นฐานะเป็นเหตุปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นเหตุ ( เหตุเทียบด้วยรากไม้ต้นไม้จะมีผลเจริญงอกงามก็เพราะได้อาศัยรากดูดน้ำและโอชะอื่น ๆ มาหล่อเลี้ยง ). ๒.อารัมมณปัจจัยอายตนะหรืออารมณ์ คือ รูป , เสียง , กลิ่น , รส , โผฏฐัพพะ ( สิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยกาย ) , ธัมมะ ( สิ่งที่รู้ด้วยใจ ) เป็นปัจจัยแห่งวิญญาณธาตุ คือความรู้แจ้งอารมณ์ทาง ตา หู เป็นต้น และแห่งธรรมที่ประกอบกับวิญญาณธาตุนั้น ๆ โดยฐานะเป็นอารัมณปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นอารมณ์ ( อารมณ์คือสิ่งที่จิตเจตสิกยึดถือเหมือนยึดเกาะท่อนไม้ ).
๓.อธิปติปัจจัย ธรรมที่เป็นใหญ่ คือ ฉันทะ ( ความพอใจ ) วิริยะ ( ความเพียร ) จิตตะ ( ความเอาใจฝักใฝ่ ) วิมังสา ( ความพิจารณาสอบสวน ) เป็นปัจจัยแห่งธรรมที่ประกอบกับฉันทะ เป็นต้นแต่ละข้อ และแห่งรูปที่มีธรรมที่ประกอบกับฉันทะ เป็นต้น เป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นอธิปติปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นใหญ่. อนันตรปัจจัย ๔. อนันตรปัจจัย จักขุวิญญาณธาตุ และธรรมที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแห่งมโนธาตุ และแห่งธรรมที่ประกอบกับมโนวิญญาณธาตุนั้น โดยฐานะเป็นอนันตรปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น. โดยนัยนี้ โสตวิญญาณธาตุ จนถึง มโนวิญญาณธาตุ และธรรมที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ เป็นต้น เป็นปัจจัยแห่งมโนธาตุ และแห่งธรรมที่ประกอบกับมโนธาตุนั้น โดยฐานะเป็นปัจจัย คือเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั้น. ธรรมที่เป็นกุศลก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นกุศลหลัง ๆ โดยฐานะเป็นปัจจัย คือเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น . ธรรมที่เป็นกุศลก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นอัพาหฤตหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอนันตรปัจจัย คือ เป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น. ธรรมที่เป็นอกุศลก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นอกุศลหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอันตรปัจจัย คืเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น. ธรรมที่เป็นอกุศลก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นอัพยากฤตหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอนันตรปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น. ธรรมที่เป็นอัพยากฤตก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นอัพยากฤตหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอนันตรปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น. ธรรมที่เป็นอัพยากฤตก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นกุศลหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอนันตรปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น. ธรรมที่เป็นอัพยากฤตก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นอกุศลหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอนันตรปัจจัยคือเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มีระหว่างคั่น. ๕. สมนันตรปัจจัย มีอธิบายอย่างเดียวกับข้อ ๔ คืออนันตรปัจจัย ต่างแต่สิ่งที่เป็นปัจจัยในข้อนี้เป็นปัจจัย โดยฐานะเป็นสมนันตรปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนอย่างกระชั้นชิด. ( มติของอาจารย์ในชั้นหลังมีอยู่ต่าง ๆ กัน บางท่านว่า อนันตรปัจจัย ( ปัจจัยโดยความเป็นของไม่มีอะไรคั้นในระหว่าง ) กับ สมนันตรปัจจัย ( ปัจจัยโดยความเป็ของกระชั้นชิด ) ต่างมีพยัญชนะ แต่เนื้อความเป็นอันเดียวกัน . บางอาจารย์กล่าวว่าต่างกัน คือ อนันตรปัจจัย เป็นของไม่มีอรรถะ คือเนื้อความอย่างอื่นคั่น . ส่วน สมนันตรปัจจัย เป็นของไม่กาละคั่น ๖. สหชาตปัจจัย ธรรม ๔ อย่างที่ไม่มีรูป ( คือรูป เวทนา , สังขาร , และ วิญญาณ ) เป็นปัจจัยของกันและกัน โดยฐานะเป็นสหชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดพร้อมกัน . มหาภูตรูป ๔ ( ดิน , น้ำ , ไฟ , ลม ) เป็นปัจจัยของกันและกัน โดยฐานะเป็นสหชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดพร้อมกัน . ในขณะที่ก้าวลง ( สู่ครรภ์มารดา คือขณะปฏิสนธิ ) นามและรูปเป็นปัจจัยของกันแลกัน โดยฐานะเป็นสหชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดพร้อมกัน. ธรรมที่เป็น จิต และ เจสิก เป็นปัจจัยแห่งรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นสหชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดพร้อมกัน. มหาภูตรูป ( รูปใหญ่คือ ดิน , น้ำ , ไฟ , ลม ) เป็นปัจจัยแห่ง อุปาทารูป ( รูปอาศัย คือรูปที่ปรากฏเพราะอาศัยมหาภูตรูป เช่น ความเป็นหญิง ความเป็นชาย ) โดยฐานะเป็นสหชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดพร้อมกัน. ธรรมที่มีรูปเป็นปัจจัยของธรรมที่ไม่มีรูปในกาลบางครั้ง โดยฐานะเป็นสหชาตปัจจัย คือมิใช่เป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดพร้อมกัน. แต่ในกาลบางครั้งก็เป็นปัจจัย มิใช่โดยฐานะเป็นสหชาตปัจจัย คือมิใช่เป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดพร้อมกัน. ๗. อัญญมัญญปัจจัย ขันธ์ ๔ ที่ไม่มีรูป ( ได้แก่ เวทนา , สัญญา , สังขาร , และ วิญญาณ ) เป็นปัจจัย โดยฐานะเป็นอัญญมัญญปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่อิงอาศัยกันและกัน . มหาภูตรูป ๔ ( ดิน , น้ำ , ไฟ , ลม ) เป็นปัจจัย โดยฐานะเป็นอัญญมัญญปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่อิงอาศัยกันและกัน ในขณะก้าวลง ( ขณะปฏิสนธิ ) นามและรูปเป็นปัจจัย โดยฐานะเป็นอัญญมัญญปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่อิงอาศัยกันและกัน . ๘. นิสสยปัจจัย ขันธ์ ๔ ที่ไม่มีรูป ( ได้แก่ เวทนา , สัญญา , สังขาร , และ วิญญาณ ) เป็นปัจจัยของกันและกัน โดยฐานะเป็นนิสสยปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนเป็นที่อาศัย . มหาภูตรูป ๔ ( ดิน , น้ำ , ไฟ , ลม ) เป็นปัจจัยของกันและกัน โดยฐานะเป็นนิสสยปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นที่อาศัย. ในขณะที่ก้าวลง ( ขณะปฏิสนธิ ) นามและรูปเป็นปัจจัยของกันและกัน โดยฐานะเป็นนิสสยปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นที่อาศัย . ธรรมคือจิตและเจตสิกเป็นปัจจัยของรูปที่มีจิตเป็น สมุฏฐาน โดยฐานะเป็นนิสสยปัจจัย คือเครื่องสนับสนุนที่เป็นที่อาศัย อายตนะ คือ ตา , หู , ลิ้น , กาย เป็นปัจจัยแห่ง ธาตุ คือ ความรู้แจ้ง ( วิญญาณธาตุ ) ทางตา , หู , ลิ้น , กาย และธรรมที่ประกอบวิญญาณธาตุชนิดนั้น ๆ. มโนธาตุ ( ธาตุคือใจ ) มโนสิญญาณธาตุ ( ธาตุคือความรู้แจ้งทางใจ ) อาศัยรูปใดเป็นไป รูปนั้นเป็นปัจจัยแห่งมโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุและแห่งธรรมที่ประกอบกับมโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุนั้น โดยฐานะเป็นนิสสยปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นที่อาศัย. ๙. อุปนิสสยปัจจัย ธรรมที่เป็นกุศลก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นกุศลหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอุปนิสสยปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นที่อาศัยโดยสืบต่อกันมา. ต่อจากนี้มีข้อความคล้ายกับข้อ ๔ ต่างแต่เป็นปัจจัย โดยฐานะเป็นอุปนิสสยปัจจัย . แม้บุคคลก็เป็นปัจจัย โดยฐานะเป็นอุปนิสสยปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นที่อาศัยสืบต่อกันมา . แม้เสนาสนะก็เป็นปัจจัย โดยฐานะเป็นอุปนิสสยปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นที่อาศัยสืบต่อกันมา . คำว่า นิสสยปัจจัย กับ อุปนิสสยปัจจัย มีคำใกล้กัน นิสสย แปลว่า เป็นที่อาศัย อุปนิสสยะ แปลว่า ใกล้จะเป็นที่อาศัย แต่แปลหักตามเนื้อหาว่า เป็นที่อาศัยสืบต่อกันมา คืออาศัยพอเป็นเค้า เป็นเชื้อ มีความหนักแน่นน้อยกว่า นิสสยะ ). ๑๐. ปเรชาตปัจจัย อานตนะคือ ตา , หู , ลิ้น , กาย เป็นปัจจัยแห่งวิญญาณธาตุทางตา , หู , ลิ้น , กาย ตามประภทของตน และแห่งธรรมที่ประกอบด้วยวิญญาณธาตุนั้น ๆ โดยฐานะเป็นปุเรชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดก่อน . อายตนะคือ รูป , เสียง , กลิ่น , รส , โผฏฐัพพะ เป็นปัจจัยแห่งวิญญาณธาตุนั้น โดยฐานะเป็นปุเรชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดก่อน. อายตนะคือ รูป , เสียง , กลิ่น , รส , โผฏฐัพพะ เป็นปัจจัยแห่งมโนธาตุ และธรรมะที่ประกอบด้วยมโนธาตุ โดยฐานะเป็นปุเรชาตปัจจัยคือเครื่องสนับสนุนเกิดก่อน. มโนธรรมและมโนซิญญาณธาตุอาศัย รูปใดเป็นไป รูปนั้นเป็นปัจจัยแห่งมโนธาตุและแห่งธรรมที่ประกอบด้วยมโนธาตุ โดยฐานะเป็นปุเรชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดก่อน. รูปนั้นเป็นปัจจัยแห่งมโนวิญญาณธาตุในกาลบางครั้ง โดยฐานะเป็นปุเรชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดก่อนในกาลบางครั้งก็เป็นปัจจัย โดยมิใช่ฐานะเป็นปุเรชาตปัจจัย คือมิใช่เป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดก่อน. ๑๑.ปัจฉาชาตปัจจัยธรรมที่เป็นจิตและเจตสิก ย่อมเป็นปัจจัยแห่งกายนี้ซึ่งเกิดก่อน โดยฐานะเป็นปัจฉาชาตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เกิดภายหลัง. ๑๒. อาเสวนปัจจัยธรรมที่เป็นกุศลก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นกุศลหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอาเสวนปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนโดยการส้องเสพ. ธรรมที่เป็นอกุศลก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นอกุศลหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอาเสวนปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนโดยการส้องเสพ . ธรรมที่เป็นอัพยากฤตฝ่ายกิริยาก่อน ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นอัพยากฤตฝ่ายกิริยาหลัง ๆ โดยฐานะเป็นอาเสวนปัจจัย เป็นเครืองสนับสนุนโดยการส้องเสพ. ( ธรรมประเภทเดียวกันเมื่อส้องเสพหรือประพฤติบ่อย ๆ ก็เป็นปัจจัยให้เกิดธรรมประเภทเดียวกันนั้นต่อไปอีก ). ๑๓. กัมมปัจจัย กรรมที่เป็นกุศลและอกุศลย่อมเป็นปัจจัยแห่งขันธ์ที่เป็นวิบาก และแห่ง กฏัตตารูป ( รูปที่เกิดเพราะทำกรรมไว้ เรียกว่า กัมมชรูป ก็ได้ ) โดยฐานะเป็นกัมมปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นกรรมคือการกระทำ. กรรมที่เป็นกุศลและอกุศลนั้น ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่ประกอบด้วยเจตนา และแห่งรูปที่มีธรรมอันประกอบด้วยเจตนานั้นเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นกัมมปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นกรรมคือการกระทำ. ๑๔. วิปากปัจจัย ขันธ์ ๔ ที่ไม่มีรูปซึ่งเป็นผลของกรรมย่อมเป็นปัจจัยของกันและกัน โดยฐานะเป็นวิปากปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นผลของกรรม. ๑๕. อาหารปัจจัยอาหารเป็นคำ ๆ ( อาหารที่กลืนกิน ) เป็นปัจจัยของกายนี้ โดยฐานะเป็นอาหารปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นอาหาร อาหารที่ไม่มีรูป เป็นปัจจัยแห่งธรรมที่ประกอบกัน ( สัมปยุตตธรรม ) . และแห่งรูปที่มีสัมปยุตตธรรมนั้นเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นอาหารปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นอาหาร. ๑๖. อินทริยปัจจัยอินทรีย์คือ ตา , หู , ลิ้น , กาย เป็นปัจจัยแห่ง วิญญาณธาตุ ทางตา , หู , จมูก , ลิ้น , กาย และธรรมที่สัมปยุตด้วยวิญญาณธาตุชนิดนั้น ๆ โดยฐานะเป็นอินทรีย์ปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นอินทรีย์ ( คือธรรมที่เป็นใหญ่ในหน้าที่ของตน ). อินทรีย์คือรูปชีวิต เป็นปัจจัยแห่ง กฏัตตารูป รูปซึ่งเกิดแต่กรรม ) โดยฐานะเป็นอินทรีย์ปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นอินทรีย์. อินทรีย์ที่ไม่มีรูป เป็นปัจจัยแห่งสัมปยุตตธรรม และรูปที่มีสัมปยุตตธรรมนั้นเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นอินทริยปัจจัยคือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นอินทีรย์. ๑๗. ฌาณปัจจัย องค์แห่งฌานย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่สัมปยุต ( ประกอบ ) ด้วยฌาน และรูปที่มีธรรมที่สัมปยุตด้วยฌานนั้นเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นฌานปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นฌาน. ๑๘. มัคคปัจจัย องค์แห่งมรรคย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่สัมปยุตด้วยมรรค และแห่งรูปที่มีธรรมอันสัมปยุตด้วยมรรคนั้นเป็นสมุฏฐาน โดยฐานะเป็นมัคคปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นมรรค. ๑๙. สัมปยุตตปัจจัยขันธ์ ๔ ที่ไม่มีรูป ( ได้แก่ เวทนา , สัญญา , สังขาร, และ วิญญาณ ) เป็นปัจจัยของกันและกัน โดยฐานะเป็นสัมปยุตตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นของประกอบกัน ( คือเกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน ). ๒๐. วิปปยุตตปัจจัยธรรมที่เป็นรูปย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่ไม่มีรูป. ธรรมที่ไม่มีรูปย่อมย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่มีรูป โดยฐานะเป็นวิปปยุตตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่ประกอบกัน ( ไม่เกิดพร้อมกันไม่ดับพร้อมกัน ). ๒๑. อัตถิปัจจัย ขันธ์ ๔ ที่ไม่มีรูป เป็นปัจจัยของกันและกัน. มหาภูตรูป ๔ ( ดิน , น้ำ , ไฟ , ลม ) เป็นปัจจัยของกันและกัน , ธรรมที่เป็น จิต และ เจตสิก เป็นปัจจัยแห่งรูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน , อายตนะคือตา , หู , จมูก , ลิ้น , กาย เป็นปัจจัยแห่ง จักขุวิญญาณธาตุ เป็นต้น และแห่งธรรมที่สัมปยุตด้วย จักขุวิญญาณธาตุ เป็นต้นนั้น ๆ , อายตนะคือรูป , เสียง , กลิ่น , รส , โผฏฐัพพะ เป็นปัจจัยแห่ง จักขุวิญญาณธาตุ เป็นต้น และแห่งธรรมที่สัมปยุตด้วย จักขุวิญญาณธาตุ นั้น ๆ, โดยความเป็นอัตถิปัจจัยคือความเป็นเครื่องสนับสนุนที่มีอยู่. มโนธาตุ , และ มโนวิญญาณ ธาตุ อาศัยรูปใดเป็นไป รูปนั้นย่อมเป็นปัจจัยแห่ง มโนธาตุ แห่ง มโนวิญญาณธาตุ และแห่งธรรมที่สัมปยุตด้วย มโนธาตุ , และ มโนวิญญาณธาตุ นั้น โดยฐานะเป็น อัตถิปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่มีอยู่. ๒๒. นัตถิปัจจัย ธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่ดับไปในขณะกระชั้นชิด ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยฐานะเป็น นัตถิปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่ไม่มี ๒๓. วิตตปัจจัย ธรรมที่เป็น จิต และ เจตสิก ที่ไปปราศ คือพ้นไป หมดไปในขณะกระชั้นชิด ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยฐานะเป็น วิตตปัจจัย คือเป็นเครื่องสนับสนุนที่เป็นไปปราศ คือพ้นไป หมดไป ๒๔. อวิตตปัจจัย มีคำอธิบายเหมือน อัตตถิปัจจัย. (หมายเหตุ? ปัจจัยข้อที่ ๒ – ๓- ๔- ๕ มีข้อความตอนท้ายพ้องกันมิได้กล่าวไว้ ขอถือโอกาสนำมากล่าวรวมไว้ ในหมายเหตุนี้ คือกล่าวถึงธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่เกิดขึ้น เพราะปรารภธรรมใด ๆ หรือเกี่ยวเนื่องกับธรรมใด ๆ ธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกนั้น ๆ ย่อมเป็นปัจจัยแห่งธรรมนั้น ๆ โดยฐานะเป็นอารัมมณปัจจัยบ้าง , อธิปติปัจจัยบ้าง , อนันตรปัจจัยบ้าง , สมนะนตรปัจจัยบ้าง ). เล่มที่ ๔๐ ชื่อยมก ภาคที่ ๑ เป็นอภิธัมมปิฎก

03 เมษายน 2568

Joy of Life 2 (2024) หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร 2 The Emperor's New Groove: เมื่อนักวิทยาศาสตร์บ้าปกครองจีน (และพยายามออกแบบความเป็นจริงใหม่)

อ่าน 3 นาที-
   Emperor of the Han dynastyReign 28 February 202  – 1 June 195 BCSuccessorEmperor HuiKing of HanReignc. March 206  – 28 February 202 BC
Born256 BC Feng, Pei, state of Chu Died1 June 195 BC (aged 61) Chang'an, Han dynastyBurialConsorts Empress Lü Empress Gao Consort Qi Issue Names Family name: Liu () Given name: Bang ()Courtesy name: Ji ()
Posthumous name Emperor Gao (高皇帝Temple name Taizu (太祖)HouseLiuDynastyHanFatherLiu TuanMotherWang Hanshi Emperor Gaozu of HanTraditional Chinese漢高祖Simplified Chinese汉高祖劉邦show
TranscriptionsTraditional ChineseSimplified Chinese刘邦
ประวัติศาสตร์สนุกๆ
ประวัติศาสตร์สนุกติดตาม  ภาพประวัติศาสตร์ของหวางหมั่ง จักรพรรดิจีนในศตวรรษที่ 1 (สร้างด้วย DALL·E)
       การปฏิรูประบบค่าเงิน มีการออกเหรียญตรากว่า 28 แบบ ซึ่งทำให้ตลาดล่ม ผู้คนหันมาใช้ “ข้าว” ในการแลกเปลี่ยนสินค้า สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น นั่นคือภัยธรรมชาติต่างๆ ทั้งน้ำท่วม ความอดอยาก ตั๊กแตนทำลายพืชผล
หากแต่แทนที่จักรพรรดิซินเกาจู่จะออกมาขอโทษประชาชน พระองค์กลับโทษว่านี่เป็นผลจาก “พลังจักรวาลที่ไม่มีความภักดี” ชาวนาชาวไร่ ซึ่งในเวลานั้นต่างอดอยากและโกรธเกรี้ยว ได้ลุกฮือขึ้นก่อจลาจล เกิดการกบฏ กลุ่มกบฏได้บุกเมืองหลวง ปลงพระชนม์จักรพรรดิซินเกาจู่
จากนั้น พระวรกายของอดีตองค์จักรพรรดิก็ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ พระเศียรถูกนำไปเสียบประจานบนกำแพงเมือง ก่อนที่ภายหลัง ประชาชนที่ยังโมโหไม่หายจะเอาพระเศียรลงมา เอาไปเตะเล่น ของจักรพรรดิซินเกาจู่ทำให้ราชวงศ์ฮั่นกลับมาได้อีกครั้ง และปกครองแผ่นดินต่อไปอีก 200 ปี
ไมค์ แดช
จักรพรรดิหวางหมั่ง: สังคมนิยมคนแรกของจีน?
7 ตุลาคม ค.ศ. 23 กองทัพของจักรพรรดิจีนซึ่งมีกำลังพล 420,000 นาย ได้รับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ นายพลเสือเก้านาย ซึ่งถูกส่งไปนำกองทหารชั้นยอด 10,000 นาย ถูกกวาดล้างในขณะที่กองกำลังกบฏกำลังรุกคืบเข้ามา กองกำลังที่เหลืออยู่เพียงกลุ่มเดียวซึ่งได้แก่ นักโทษที่ได้รับการปล่อย ตัวจากคุกในท้องถิ่น ได้หลบหนีไป เมื่อสามวันก่อน กบฏได้ฝ่าแนวป้องกันของเมืองหลวงใหญ่ของจีนอย่างเมืองฉางอาน ได้สำเร็จ และตอนนี้ หลังจากการสู้รบอันนองเลือด พวกเขากำลังปีนกำแพงของที่พำนักส่วนตัวของจักรพรรดิ ภายในวังอันไร้ขอบเขต ของพระองค์ จักรพรรดิหวางมังรอคอยความตาย เป็นเวลา 20 ปี นับตั้งแต่ที่พระองค์เริ่มไตร่ตรองถึงการโค่นล้มเศษซากที่เสื่อมทรามของราชวงศ์ฮั่น จักรพรรดิหวางผู้แย่งชิงอำนาจได้บังคับตัวเองให้ทำงานตามตารางงานที่ไร้มนุษยธรรม โดยทำงานตลอดคืนและนอนที่โต๊ะ ทำงานเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศจีน แต่เมื่อการกบฏต่อต้านพระองค์ทวีความรุนแรงขึ้น พระองค์ก็ดูเหมือนจะยอมแพ้ พระองค์ถอยกลับไปที่วังและเรียกนักมายากลมาช่วยเขาใช้เวลาทดสอบคาถา พระองค์เริ่มมอบตำแหน่งที่แปลกประหลาดและลึกลับแก่ผู้บัญชาการกองทัพของพระองค์ “พันเอกถือขวานใหญ่โค่นไม้เหี่ยวเฉา” เป็นหนึ่งในนั้น ความเกินพอดีดังกล่าวดูไม่เข้ากับบุคลิกของหวาง นักวิชาการ ขงจื๊อและนักพรตที่มีชื่อเสียง นักสะสมเหรียญกษาปณ์อย่างร็อบ ไท ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับการครองราชย์ของจักรพรรดิ เชื่อว่าเขาต้องสิ้นหวัง “พูดตรงๆ การประเมินของฉันเองก็คือ เขาเสพยาตลอดเวลาส่วนใหญ่” ไทเขียน “เมื่อรู้ว่าทุกอย่างสูญเปล่า เขาจึงเลือกที่จะหนีจากความเป็นจริงและแสวงหาความสุขในช่วงสัปดาห์สุดท้าย”
เมื่อพวกกบฏบุกเข้าไปในพระราชวังของเขา หวังก็อยู่ในฮาเร็มของจักรพรรดิ โดยมีสตรีผู้กลมเกลียวสามคน ภรรยาของทางการเก้าคน “หญิงงาม” 27 คน และบริวารอีก 81 คนรายล้อมอยู่ เขาย้อมผมสีขาวเพื่อให้ดูสงบและดูอ่อนเยาว์ เจ้าหน้าที่ที่สิ้นหวังเกลี้ยกล่อมให้เขาถอยทัพไปที่หอคอยสูงที่ล้อมรอบด้วยน้ำ
ในใจกลางเมืองหลวง ที่นั่น ผู้ภักดีนับพันคนยืนหยัดเป็นครั้งสุดท้ายต่อหน้ากองทัพของชาวฮั่นที่ฟื้นคืนชีพ โดยถอยทัพขึ้นบันไดที่คดเคี้ยวทีละขั้นจนกระทั่งจักรพรรดิถูกล้อมจนมุมที่ชั้นบนสุด หวังถูกสังหารในช่วงบ่ายแก่ๆ หัวของเขาถูกตัดขาด ร่างกายของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆ โดยทหารที่ต้องการของที่ระลึก
ลิ้นของเขาถูกตัดออกและถูกศัตรูกิน เขาเคยสงสัยหรือไม่ว่าเมื่อเสียชีวิตแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ความพยายามปฏิรูปของเขาได้จุดไฟเผาทั้งประเทศได้อย่างไร และเขารู้สึกแปลกใจหรือไม่ที่ชาวนาที่เขาพยายามช่วยเหลือด้วยโครงการที่ดูเหมือนจะสุดโต่งจนนักวิชาการบางคนบรรยายว่าเป็นโครงการสังคมนิยมหรือแม้กระทั่ง “คอมมิวนิสต์” กลับเป็นกลุ่มแรกที่หันหลังให้เขา?
หวังหมั่งอาจเป็นจักรพรรดิที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดในบรรดาจักรพรรดิจีนกว่าร้อยพระองค์ พระองค์ประสูติในตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเมื่อประมาณ 45 ปีก่อนคริสตกาล โดยได้รับการยกย่องให้เป็นนักวิชาการก่อน จากนั้นเป็นนักพรต และในที่สุดก็เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ให้
กับจักรพรรดิหนุ่มที่อายุสั้นหลายพระองค์ ในที่สุดในปี ค.ศ. 9 เมื่อจักรพรรดิหนุ่มคนสุดท้ายสิ้นพระชนม์ (หลายคนเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม) หวังจึงยึดบัลลังก์เป็นของตนเอง การแย่งชิงอำนาจของพระองค์ถือเป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์ฮั่นในอดีต ซึ่งครองราชย์มาตั้งแต่ 206 ปีก่อนคริสตกาลไม่นานหลังจากการสิ้นพระชนม์
ของจักรพรรดิองค์แรก ที่มีชื่อเสียงของจีน ผู้สร้างกำแพงเมืองจีนและกองทัพทหารดินเผาที่มีชื่อเสียง หวังประกาศให้ราชวงศ์ซินหรือ “ราชวงศ์ใหม่” เป็นของราชวงศ์ฮั่น ซึ่งเขาถูกกำหนดให้ดำรงตำแหน่งจักรพรรดิเพียงลำพังต่อไป
      ความพยายามใดๆ ที่จะประเมินการครองราชย์ของหวางนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก ผู้แย่งชิงอำนาจมักไม่ค่อยได้รับการเสนอข่าวที่ดี แต่จีนก็ปฏิบัติต่อผู้ปกครองกบฏในลักษณะที่แตกต่างออกไปเสมอ ในสมัยจักรพรรดิ เชื่อกันว่าจักรพรรดิทุกพระองค์ปกครองโดยอาศัย "อาณัติของสวรรค์" และด้วยเหตุนี้
      พระองค์เองจึงเป็นโอรสแห่งสวรรค์ ซึ่งแทบจะเป็นเทพเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม การสูญเสียอาณัตินี้เป็นไปได้อย่างแน่นอน ลางบอกเหตุเช่นดาวหางและภัยธรรมชาติอาจตีความได้ว่าเป็นการเตือนของสวรรค์ให้ผู้ปกครองแก้ไขแนวทางของตน
      จักรพรรดิองค์ใดก็ตามที่สูญเสียบัลลังก์ในเวลาต่อมาจากการลุกฮือก็ถือว่าสูญเสียการรับรองจากสวรรค์ไปแล้ว เมื่อถึงจุดนั้น พระองค์ก็กลายเป็นบุตรนอกสมรส และผู้สืบทอดตำแหน่งของพระองค์ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดที่ต่ำต้อยเพียงใดก็ตาม ก็รับตำแหน่งโอรสแห่งสวรรค์
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ หวังหมั่งได้ผ่านการประเมินใหม่ที่น่าตกใจ กระบวนการนี้สามารถย้อนกลับไปได้ถึงปี 1928 และการตีพิมพ์ผลการศึกษาวิจัยของหูซื่อนักวิชาการที่มีชื่อเสียงซึ่งขณะนั้นเป็นเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกา ในมุมมองของหู ราชวงศ์ฮั่นสมควรได้รับการประณามมากที่สุด
เนื่องจากได้ผลิต “ลูกหลานที่เสื่อมทรามมาช้านาน” ในทางกลับกัน หวังหมั่งใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย คิดอย่างลึกซึ้ง และเป็น “คนแรกที่ได้รับชัยชนะในจักรวรรดิโดยไม่ต้องปฏิวัติด้วยอาวุธ” ยิ่งไปกว่านั้น หวังยังยึดครองดินแดนของจักรวรรดิ แจกจ่ายให้ราษฎรอย่างเท่าเทียมกัน ลดภาษีที่ดินจาก 50 เปอร์เซ็นต์เหลือ
      10 เปอร์เซ็นต์ และโดยรวมแล้วเป็น “คอมมิวนิสต์อย่างตรงไปตรงมา” ซึ่งเป็นคำพูดที่หูตั้งใจจะชมเชย
      การพรรณนาถึงหวางมั่งของหูซื่อเป็นที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดตั้งแต่เขาเขียนมัน และการทำความเข้าใจว่าจักรพรรดิคิดหรือตั้งใจอย่างไรในรัชสมัยของเขานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเนื่องจากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด ยกเว้นเหรียญไม่กี่เหรียญและซากโบราณวัตถุจำนวนหนึ่ง สิ่งที่ทราบเกี่ยวกับหวางทั้งหมด
มีอยู่ในชีวประวัติอย่างเป็นทางการของเขา ซึ่งปรากฏเป็นบทที่ 99 ของประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่นซึ่งรวบรวมขึ้นไม่นานก่อนคริสตศักราช 100 นี่เป็นเอกสารที่ค่อนข้างยาว ยาวที่สุดในบรรดาชีวประวัติของจักรพรรดิทั้งหมดที่หลงเหลือมาจากช่วงเวลานี้ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว เอกสารนี้ต่อต้านจักรพรรดิผู้แย่งชิงอำนาจ
อย่างเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าประวัติศาสตร์จะ กล่าวถึง สิ่งที่ หวางทำไว้ ค่อนข้างมากแต่กลับบอกเราเพียงเล็กน้อยว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ได้แสดงความสนใจอย่างแท้จริงในนโยบายเศรษฐกิจของเขา
ข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่ทราบเกี่ยวกับการปฏิรูปของหวางหมั่งสามารถสรุปได้ดังนี้ กล่าวกันว่าเขาได้คิดค้น
รูปแบบการชำระเงินประกันสังคมในช่วงแรก โดยเก็บภาษีจากคนรวยเพื่อปล่อยกู้ให้กับคนจนซึ่งโดยปกติแล้ว
ไม่มีเครดิตดี เขาเป็นผู้ริเริ่ม "การควบคุมหกประการ" ซึ่งเป็นการผูกขาดของรัฐบาลในผลิตภัณฑ์สำคัญ
เช่น เหล็กและเกลือ ซึ่งหูซื่อมองว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของ "สังคมนิยมของรัฐ" และเป็นผู้รับผิดชอบต่อนโยบาย
ที่เรียกว่าการปรับสมดุลห้าประการ ซึ่งเป็นความพยายามที่ซับซ้อนเพื่อลดความผันผวนของราคา แม้แต่ผู้วิจารณ์
หวางที่เข้มงวดที่สุดในยุคปัจจุบันก็เห็นด้วยว่าการห้ามขายที่ดินเพาะปลูกของเขาเป็นความพยายามที่จะช่วยเหลือ
เกษตรกรที่สิ้นหวังจากการล่อลวงให้ขายที่ดินในช่วงที่เกิดความอดอยาก แต่รัฐบาลของเขากลับให้
ความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติแทน ต่อมาจักรพรรดิได้จัดเก็บภาษีที่ทำลายล้างต่อเจ้าของทาส เป็นไปได้เช่นกัน
ที่จะตีความภาษีนี้ว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้การเป็นเจ้าของทาสเป็นไปไม่ได้หรือเป็นการโกยเงินเปล่าๆ
      อย่างไรก็ตาม ในนโยบายทั้งหมดของหวางหมั่ง มีอยู่สองนโยบายที่โดดเด่น นั่นคือการปฏิรูปที่ดิน
      และการเปลี่ยนแปลงที่เขาทำกับเงินของจีน ในช่วงต้นปี ค.ศ. 6 เมื่อเขายังเป็นเพียงผู้สำเร็จ
      ราชการแทนพระองค์ของทารกชื่อหลิวอิง หวังได้สั่งถอนเหรียญทองของจักรวรรดิและแทนที่ด้วย
      เหรียญทองแดงสี่ชนิดที่มีมูลค่าตามชื่อเท่านั้น ได้แก่ เหรียญกลมที่มีมูลค่า 1 เหรียญและ 50 เหรียญ
      เงินสดและเหรียญที่มีมูลค่ามากกว่านั้น เช่น เหรียญรูปมีดที่มีมูลค่า 500 เหรียญและ 5,000 เหรียญ
      เงินสด เนื่องจากเหรียญ 50 เหรียญเงินสดของหวังมีทองแดงเพียง 1/20 ต่อเหรียญเงินสด
      เมื่อเทียบกับเหรียญที่มีมูลค่าน้อยที่สุดของเขา และเหรียญ 5,000 เหรียญเงินสดของเขาถูกผลิตด้วย
      เงินน้อยกว่าตามสัดส่วน ผลที่ได้คือสกุลเงินที่ไว้วางใจได้ถูกแทนที่ด้วยมาตรฐานทองคำของราชวงศ์ฮั่น
ในเวลาเดียวกัน หวังได้สั่งเรียกคืนทองคำทั้งหมดในจักรวรรดิ โลหะมีค่าจำนวนหลายพันตันถูกยึดและเก็บไว้ในคลัง
ของจักรวรรดิ และโลหะมีค่าที่หาได้ลดน้อยลงอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบไปไกลถึงกรุงโรม ซึ่งจักรพรรดิออกัสตัส
ทรงถูกบังคับให้ห้ามการซื้อผ้าไหมนำเข้าราคาแพงซึ่งกลายเป็นเหรียญทองที่ไม่อาจทดแทนได้ ซึ่งเป็นเรื่องลึกลับ
ในมุมมองของชาวโรมัน ในจีน เหรียญทองแดงแบบใหม่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างรวดเร็วและมีการปลอม
แปลงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
      ในขณะเดียวกัน การปฏิรูปที่ดินของหวางหมั่งก็ดูเหมือนจะปฏิวัติอย่างมีสติสัมปชัญญะมากขึ้นไปอีก
      "ผู้แข็งแกร่ง" หวางเขียนว่า "ครอบครองที่ดินเป็นจำนวนหลายพันมู่ในขณะที่ผู้ที่อ่อนแอไม่มีที่ปักเข็ม"
      วิธีแก้ปัญหาของเขาคือการยึดที่ดินทั้งหมดเป็นของรัฐ ยึดที่ดินของผู้ที่ครอบครองมากกว่า
      100 เอเคอร์ และแจกจ่ายให้กับผู้ที่ทำการเกษตรจริงๆ ภายใต้ระบบที่เรียกว่าชิง นี้ แต่ละครอบครัว
      จะได้รับที่ดินประมาณห้าเอเคอร์และจ่ายภาษีของรัฐในรูปแบบของอาหารทั้งหมดที่พวกเขาปลูก

Joy of Life 2 (2024) หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร 2

Joy of Life 2 (2024) หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร 2
7.8
  • ปีที่ฉาย : 2024
  • ความยาว : 0 ชั่วโมง 45 นาที
  • คุณภาพ : HD
  • เสียง : พากย์ไทย

เรื่องย่อ - Joy of Life 2 (2024) หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร 2

ซีรีย์จีนย้อนยุคแฟนตาซี เรื่องราวภาคต่อของ "ฟ่านเสียน" หลังจากที่ถูกคนขององค์ชายรองล้อมรอบเอาไว้ ตัวเขากลับถูกแทง และถูกเผาไปทั้งอย่างนั้น ไม่นานข่าวการเสียชีวิตของเขาก็ถูกส่งมาให้ผู้คนในเมืองหลวง ไม่ว่าจะฮ่องเต้ หน่วยผู้ตรวจสอบ และสกุลฟ่าน ทุกคนต่างร้อนลน แต่เมื่อได้รับจดหมายอีกฉบับที่บอกว่าถูกแทงโดยคนของฝ่ายตรวจการเอง กลับทำให้พวกเขาเข้าใจว่าเป็นแผนการของ "ฟ่านเสียน" ทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้มีการจัดเตรียมงานศพอย่างยิ่งใหญ่ ทำเอาทั่วทั้งเมืองหลวงต่างวุ่นวาย ซึ่งแท้จริงแล้วก็เป็นตามที่คาดการเอาไว้ ข่าวการตายทั้งหมดเป็นแผนการของ "ฟ่านเสียน" เพื่อเอาตัวรอดกลับเข้ามาเมืองหลวงได้อย่างปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้นภารกิจที่เขาก็ยังคงไม่สิ้นสุด การตัดสินใจกลับมาเมืองหลวงครั้งนี้ เขาต้องเผชิญกับแผนการร้ายกาจ และเผชิญหน้ากับผู้บงการเรื่องราวทั้งหมด ท่ามกลางเส้นทางที่อันตราย เขาจะสามารถฝ่าวงล้อมอุปสรรค และเปิดโปงแผนการ รวมไปถึงผู้วางแผนได้หรือไม่

30 มีนาคม 2568

พระพุทธเจ้าทรงแบ่งที่นั่งกับพระกัสสปะครึ่งหนึ่ง