
[๕๙๘] สมัยนั้นแล อุบาสกคนหนึ่งถวายโรงเก็บของ แก่ภิกษุณีสงฆ์ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตโรงเก็บของ โรงเก็บของไม่พอ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตที่อยู่ ที่อยู่ไม่พอ ภิกษุทั้งหลาย
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตนวกรรม นวกรรมไม่พอ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ทำแม้เป็นส่วนบุคคล ฯ
พุทธานุญาตสมมติภิกษุณีเป็นเพื่อน
[๕๙๙] สมัยนั้น หญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์แล้วบวชในสำนักภิกษุณี เมื่อนางบวชแล้วเด็กจึงคลอด ครั้งนั้น นางคิดว่า เราจะพึงปฏิบัติในเด็กชายนี้อย่างไรหนอภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้เลี้ยงดู จนกว่าเด็กนั้นจะรู้เดียงสา นางคิดว่าเราจะอยู่แต่ตามลำพัง
ไม่ได้ และภิกษุณีอื่นจะอยู่ร่วมกับเด็กชายอื่นก็ไม่ได้ เราจะพึงปฏิบัติอย่างไรหนอภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้สมมติภิกษุณีรูปหนึ่ง ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีนั้น
วิธีสมมติ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงสมมติอย่างนี้ พึงขอร้องภิกษุณีก่อน ครั้นแล้วภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาว่าดังนี้:-
กรรมวาจาให้สมมติ
แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงสมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ นี้เป็นญัตติ
แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ การสมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด
สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้แล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ดิฉันทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้
ครั้งนั้น ภิกษุณีเพื่อนของนางคิดว่า เราจะพึงปฏิบัติในเด็กชายนี้อย่างไรหนอ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปฏิบัติในเด็กชายนั้นเหมือนปฏิบัติในบุรุษอื่น เว้นการนอนร่วมเรือนเดียวกัน ฯ
[๖๐๐] สมัยนั้น ภิกษุณีรูปหนึ่งต้องอาบัติหนักแล้ว กำลังประพฤติมานัต นางคิดว่า เราอยู่แต่ลำพังผู้เดียว และภิกษุณีอื่นจะอยู่ร่วมกับเราก็ไม่ได้ เราพึงปฏิบัติอย่างไรหนอ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สมมติภิกษุณีรูปหนึ่งให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีนั้น
วิธีสมมติ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงสมมติอย่างนี้ พึงขอร้องภิกษุณีก่อน ครั้นแล้ว ภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจาว่าดังนี้:-
กรรมวาจาให้สมมติ
แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึงสมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ นี้เป็นญัตติ
แม่เจ้า เจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังดิฉัน สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ การสมมติภิกษุณีชื่อนี้ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้ ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงเป็นผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่แม่เจ้าผู้ใด แม่เจ้าผู้นั้นพึงพูด
สงฆ์สมมติภิกษุณีชื่อนี้ ให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีชื่อนี้แล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง ดิฉันทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้ ฯ
เรื่องภิกษุณีไม่บอกลาสิกขา
[๖๐๑] สมัยนั้น ภิกษุณีรูปหนึ่งไม่ได้บอกลาสิกขาสึกไปแล้ว นางกลับมาขออุปสมบทกะภิกษุณีทั้งหลายอีก ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่ต้องบอกลาสิกขา นางสึกแล้วเมื่อใด ไม่เป็นภิกษุณีเมื่อนั้น ฯ
เข้ารีตเดียรถีย์
[๖๐๒] สมัยนั้น ภิกษุณีรูปหนึ่งครองผ้ากาสาวะ ไปเข้ารีตเดียรถีย์ นางกลับมาขออุปสมบทกะภิกษุณีทั้งหลายอีก ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีรูปใด ครองผ้ากาสาวะไปเข้ารีตเดียรถีย์ นางนั้นมาแล้ว ไม่พึงให้อุปสมบท ฯ
[๖๐๓] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายรังเกียจ ไม่ยินดีการอภิวาท การปลงผม การตัดเล็บ การรักษาแผล จากบุรุษทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ยินดี ฯ
นั่งขัดสมาธิ
[๖๐๔] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายนั่งขัดสมาธิ ยินดีสัมผัสซ่นเท้า ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุณีไม่พึงนั่งขัดสมาธิ รูปใดนั่ง ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
[๖๐๕] สมัยนั้น ภิกษุณีรูปหนึ่งอาพาธ นางเว้นขัดสมาธิไม่สบาย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุณีนั่งพับเพียบได้ ฯ
เรื่องถ่ายอุจจาระ
[๖๐๖] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายถ่ายอุจจาระในวัจจกุฎี ภิกษุณีฉัพพัคคีย์ยังครรภ์ให้ตกในวัจจกุฎีนั้นเอง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงถ่ายอุจจาระในวัจจกุฎีรูปใดถ่าย ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาตให้ถ่ายอุจจาระในที่ซึ่งเปิดข้างล่างปิดข้างบน ฯ
เรื่องอาบน้ำ
[๖๐๗] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลาย อาบน้ำด้วยจุณ ชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ... เหมือนพวกหญิงคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำด้วยจุณ รูปใดอาบ ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาต รำ ดินเหนียว ฯ
[๖๐๘] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายอาบน้ำด้วยดินเหนียวที่อบกลิ่น ชาวบ้านเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ... เหมือนพวกหญิงคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำด้วยดินเหนียวที่อบกลิ่น รูปใดอาบ ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาตดินเหนียวธรรมดา ฯ
[๖๐๙] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายอาบน้ำในเรือนไฟ ทำโกลาหล ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำในเรือนไฟ รูปใดอาบ ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
[๖๑๐] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายอาบน้ำทวนกระแส ยินดีสัมผัสแห่งสายน้ำ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำทวนกระแส รูปใดอาบ ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
[๖๑๑] สมัยนั้น ภิกษุณีทั้งหลายอาบน้ำในที่มิใช่ท่าอาบน้ำ พวกนักเลงลอบประทุษร้าย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำในที่มิใช่ท่าอาบน้ำ รูปใดอาบ ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
[๖๑๒] สมัยนั้น ภิกษุณีอาบน้ำที่ท่าสำหรับชายอาบ ชาวบ้านเพ่งโทษติเตียน โพนทะนาว่า ... เหมือนพวกหญิงคฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ... ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำที่ท่าสำหรับชายอาบ รูปใดอาบ ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาตให้อาบน้ำที่ท่าสำหรับหญิงอาบ ฯ
ตติยภาณวาร จบ
ภิกขุนีขันธกะ ที่ ๑๐ จบ ในขันธกะนี้ มี ๑๐๖ เรื่อง
หัวข้อประจำขันธกะ
[๖๑๓] เรื่องพระนางโคตมีทูลขอบรรพชา พระตถาคตไม่ทรงอนุญาต เรื่องพระผู้มีพระภาคผู้ฝึกเวไนยเสด็จไปพระนครเวสาลี จากกรุงกบิลพัสดุ์ เรื่องพระนางโคตมีมีพระวรกายเกลือกกลั้วด้วยธุลี ได้ชี้แจงแก่พระอานนท์ที่ซุ้มประตู เรื่องพระอานนท์ทูลขอโดยนัยว่า มาตุคามเป็นภัพพบุคคล พระนางโคตมีเป็น
พระมาตุจฉา เป็นผู้เลี้ยงดู เรื่องครุธรรม ๘ ที่ภิกษุณีพึงประพฤติตลอดชีวิต คือ ภิกษุณีบวชตั้งร้อยปีต้องกราบไหว้ภิกษุแม้บวชในวันนั้น ๑ ไม่พึงจำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ ๑ หวังธรรม ๒ อย่าง ๑ ปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่าย ๑ ต้องอาบัติหนัก ๑ พึงแสวงหาอุปสมบทเพื่อสิกขมานาผู้ศึกษาครบ ๒ ปี
แล้ว ๑ ไม่ด่าภิกษุ ๑ เปิดโอกาสให้ภิกษุว่ากล่าว ๑ เรื่องการรับครุธรรม ข้อนั้นเป็นอุปสัมปทาของพระนางโคตมี เรื่องพรหมจรรย์อันจะตั้งอยู่ถึง ๑๐๐๐ ปี และตั้งอยู่ได้เพียง ๕๐๐ ปี ความเสื่อมแห่งสัทธรรม เปรียบด้วยโจรลักทรัพย์ ขยอก เพลี้ย อีกอย่างหนึ่ง ความตั้งมั่นแห่งสัทธรรมเปรียบด้วยกั้นทำนบ
เรื่องให้อุปสมบทภิกษุณี เรื่องแม่เจ้าเป็นอนุปสัมบัน เรื่องอภิวาทตามลำดับผู้แก่ เรื่องไม่ทำอภิวาท เรื่องสิกขาบทที่ทั่วไปและไม่ทั่วไป จักกระทำอย่างไร เรื่องโอวาท เรื่องปาติโมกข์ เรื่องใครแสดงปาติโมกข์ เรื่องเข้าไปแสดงถึงสำนักภิกษุณี เรื่องไม่รู้ เรื่อง
บอก เรื่องไม่ทำคืน เรื่องภิกษุรับอาบัติ
เรื่องให้ภิกษุบอกให้นางภิกษุณีรับอาบัติ เรื่องชาวบ้านติเตียน เรื่องให้ภิกษุบอกให้ทำกรรม เรื่องทะเลาะ เรื่องยกมอบ เรื่องอันเตวาสินีของนางอุบลวรรณา เรื่องรดน้ำโคลนในเมืองสาวัตถี เรื่องไม่ควรไหว้ เรื่องเปิดกาย เปิดขาอ่อน เปิดองค์กำเนิด เรื่องภิกษุพูดเกี้ยว เรื่องพระฉัพพัคคีย์ชักจูง เรื่องไม่ควรไหว้
เรื่องทัณฑกรรม ฝ่ายภิกษุณีก็เหมือนกัน เรื่องห้าม เรื่องงดโอวาท เรื่องควรหรือไม่ เรื่องหลีกไป เรื่องภิกษุเขลา เรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องไม่ให้คำวินิจฉัย เรื่องภิกษุณีสงฆ์ไม่ไปรับโอวาท เรื่องภิกษุณี ๕ รูปรับโอวาท เรื่องภิกษุณี ๒-๓ รูปไปรับโอวาทแทน เรื่องภิกษุณีไม่รับโอวาท เรื่องภิกษุเขลา
เรื่องภิกษุอาพาธ เรื่องภิกษุเตรียมจะไป เรื่องภิกษุอยู่ป่า เรื่องไม่บอก เรื่องไม่นำกลับมาบอก เรื่องผ้ากายพันธ์ยาว เรื่องแผ่นไม้สาน แผ่นหนัง ผ้าขาว ช้องผ้า เกลียวผ้า ผ้าผืนน้อย ช้องผ้าผืนน้อย เกลียวผ้าน้อย ช้องถกด้วยด้าย เกลียวด้าย เรื่องกระดูกแข้งโค เรื่องนวดหลังมือ หลังเท้า ขาอ่อนหน้า ริมฝีปาก
ด้วยไม้มีสัณฐานดุจคางโค เรื่องทาหน้า ถูหน้า ผัดหน้า เจิมหน้า ย้อมตัว ย้อมหน้า ย้อมทั้งตัวทั้งหน้าทั้งสองอย่าง เรื่องแต้มหน้าทาแก้ม เยี่ยมหน้าต่าง ยืนแอบประตู ให้ผู้อื่นทำการฟ้อนรำ ตั้งสำนักหญิงแพศยา ตั้งร้านขายสุรา ขายเนื้อ ออกร้านขายของเบ็ดเตล็ด ประกอบการหากำไร ประกอบการค้าขาย
ใช้ทาส ทาสี กรรมกรชาย กรรมกรหญิง ให้บำรุง ให้สัตว์เดียรัจฉานบำรุง ขายของสดและของสุก ใช้สันถัดขนเจียมหล่อ เรื่องใช้จีวรสีคราม สีเหลือง สีแดง สีบานเย็น สีดำ สีแสด สีชมพู ไม่ตัดชาย มีชายยาว มีชายเป็นลายดอกไม้ มีชายเป็นลายผลไม้ สวมเสื้อ สวมหมวก เรื่องเมื่อภิกษุณี สิกขมานา
สามเณรีถึงมรณภาพ ภิกษุณีเป็นใหญ่ในบริขารที่ภิกษุณีเป็นต้นมอบถวาย เมื่อภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา และใครอื่นปลงบริขารให้ ภิกษุเป็นใหญ่ เรื่องภิกษุณีเคยเป็นภรรยานักมวย เรื่องครรภ์ เรื่องก้นบาตร เรื่องนิมิต เรื่องอามิสมากมาย อามิสเหลือเฟือยิ่ง อามิสที่ทำสันนิธิอามิสเช่นใดของภิกษุทั้งหลาย
ในหนหลัง ของภิกษุณีทั้งหลายก็เช่นนั้น เรื่องเสนาสนะเปื้อนระดู เรื่องผ้า เรื่องเชือกขาด เรื่องใช้เชือกผูกสะเอวตลอดกาล เรื่องภิกษุณีปรากฏว่าไม่มีนิมิตบ้าง มีสักแต่ว่านิมิตบ้าง ไม่มีโลหิตบ้าง มีโลหิตเสมอบ้าง มีผ้าซับในเสมอและมีน้ำมูตรกะปริบกะปรอย มีเดือยเป็นหญิงบัณเฑาะก์บ้าง เป็นหญิงคล้ายชายบ้าง
เป็นหญิงมีมรรคระคนกันบ้าง เป็นหญิง ๒ เพศบ้าง เรื่องถามอันตรายิกธรรม ตั้งแต่คำว่าหานิมิตมิได้ จนถึงอุภโตพยัญชนก หลังจากเปยยาลไปถามดังนี้ โรคเรื้อน ฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ ลมบ้าหมู เป็นมนุษย์หรือ เป็นหญิงหรือ เป็นไทยหรือ ไม่มีหนี้สิน หรือ ไม่ใช่ราชภัฏหรือ มารดา บิดา สามี อนุญาต
แล้วหรือ มีอายุครบ ๒๐ ปี แล้วหรือ มีบาตรจีวรครบแล้วหรือ ชื่ออะไร ปวัตตินีของเธอชื่ออะไร รวม ๒๔ อย่าง แล้วให้อุปสมบท เรื่องอุปสัมปทาเปกขะยังไม่ได้สอนซ้อมกระดากในท่ามกลางสงฆ์ก็เหมือนกัน เรื่องถืออุปัชฌายะ เรื่องบอกสังฆาฏิ อุตราสงค์อันตรวาสก ผ้ารัด ผ้าอาบน้ำ แล้วส่งไป เรื่องภิกษุณีเขลา
เรื่องภิกษุณีไม่ได้รับสมมติ ขอร้องถามอันตรายิกธรรม เรื่องอุปสมบทในสงฆ์ฝ่ายเดียว ต้องอุปสมบทในภิกษุสงฆ์อีก เรื่องบอกฉายา ฤดู วัน ข้อเบ็ดเสร็จ นิสัย ๓ อกรณียกิจ ๘ เรื่องกาล เรื่องภิกษุณี ๘ รูปในที่ทุกแห่ง เรื่องภิกษุณีไม่ปวารณาและไม่ปวารณากะภิกษุสงฆ์ เรื่องโกลาหล เรื่องปวารณาก่อนภัตร
เรื่องปวารณาเวลาพลบค่ำ เรื่องภิกษุณีสงฆ์โกลาหล เรื่องพระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ทรงห้ามไม่ให้ภิกษุณีงดอุโบสถ ปวารณา กระทำการไต่สวน เริ่มอนุวาทาธิกรณ์ทำโอกาส สืบพยาน โจท และให้การ แต่ทรงอนุญาตให้ภิกษุทำอย่างนั้นแก่ภิกษุณีได้ เรื่องยาน เรื่องภิกษุอาพาธ เรื่องยานที่ลาก
เรื่องการกระทบกระทั่งแห่งยาน เรื่องนางอัฑฒกาสี เรื่องภิกษุ สิกขมานา สามเณร สามเณรี เป็นทูต เรื่องทูตเขลา เรื่องภิกษุณีอยู่ป่า เรื่องอุบาสกถวายโรงเก็บของ เรื่องที่อยู่นวกรรม ไม่พอ เรื่องภิกษุณีตั้งครรภ์อยู่แต่ลำพังไม่ได้ เรื่องร่วมเรือน เรื่องอาบัติหนัก เรื่องไม่บอกลาสิกขา เรื่องเข้ารีตเดียรถีย์ เรื่องไม่ยินดี
อภิวาท ปลงผม ตัดเล็บ รักษาแผล เรื่องภิกษุณีนั่งขัดสมาธิ เรื่องภิกษุณีอาพาธ เรื่องถ่ายอุจจาระ เรื่องอาบด้วยจุณ เรื่องดินอบ เรื่องอาบน้ำในเรือนไฟ เรื่องอาบน้ำทวนกระแส เรื่องอาบน้ำในที่มิใช่ท่า เรื่องอาบน้ำที่ท่าสำหรับชายอาบ พระนางมหาโคตมีและพระอานนท์ทูลขอโดยแยบคาย บริษัทบรรพชาในศาสนา
ของพระชินเจ้าครบ ๔ เหล่า พระพุทธเจ้าทรงแสดงขันธกะนี้ไว้ เพื่อประโยชน์ให้เกิดความสังเวชและความเจริญแห่งพระสัทธรรม เหมือนเภสัชสำหรับระงับความกระวนกระวายฉะนั้น แม้มาตุคามเหล่าอื่นที่ทรงฝึกแล้วในพระสัทธรรมอย่างนี้ พวกเขาย่อมไปสู่สถานอันไม่จุติ ซึ่งไปแล้วไม่เศร้าโศกแล ฯ
หัวข้อประจำขันธกะ จบ
อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ ภิกขุนีขันธกะ
ภิกษุณีอยู่ป่าเป็นต้น
อรรถกถาภิกขุนีขันธกะทั้งหมดมีเนื้อความอยู่ในข้อ 513.
อรรถกถาที่มีมาก่อนหน้านี้ :-
อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ ภิกขุนีขันธกะ
เรื่องพระนางมหาปชาบดีโคตมีเป็นต้น
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=7&i=513
อรรถกถาที่มีถัดจากนี้ :-
อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ ปัญจสติกขันธกะ
เรื่องพระมหากัสสปเถระเป็นต้น
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=7&i=614
อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ ภิกขุนีขันธกะ
เรื่องภิกษุณีไม่บอกลาสิกขา เป็นต้น
อรรถกถาภิกขุนีขันธกะทั้งหมดมีเนื้อความอยู่ในข้อ 513.
อรรถกถาที่มีมาก่อนหน้านี้ :-
อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ ภิกขุนีขันธกะ
เรื่องพระนางมหาปชาบดีโคตมีเป็นต้น
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=7&i=513
อรรถกถาที่มีถัดจากนี้ :-
อรรถกถา จุลวรรค ภาค ๒ ปัญจสติกขันธกะ
เรื่องพระมหากัสสปเถระเป็นต้น
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=7&i=614

คือตอนแรกของภาพยนตร์ไซไฟชุดยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกและเป็นการแนะนำให้ผู้ชมได้รู้จักกับซิกอร์นี่ย์ วีเวอร์ ในบท ริปลี่ย์
หญิงเหล็กผู้ต้องต่อกรกับสัตว์ร้ายแห่งจักรวาล…ศัตรูคู่อาฆาตตลอดกาลของเธอ ความสยองขวัญเริ่มต้น เมื่อลูกเรือของยานอวกาศ “นอสโทรโม่” ได้รับสัญญาณ
ติดต่อจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่งอันไกลโพ้นและต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่แพร่พันธุ์ด้วยการฝังไข่ของมันในร่างกายมนุษย์ เวลานี้ลูกเรือทั้งหมดไม่เพียงต้องต่อสู่เพื่อเอาชีวิตรอดแต่ยังต้องต่อสู้เพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกด้วย
Description
Alienเป็นแฟรนไชส์แนววิทยาศาสตร์ สยองขวัญและแอ็คชั่ น ที่มีเนื้อเรื่องหลักจากภาพยนตร์ชุดเดิมซึ่งบรรยายถึงเจ้าหน้าที่ชั้นประทวนเอลเลน ริปลีย์ (ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ) และการต่อสู้ของเธอกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่เรียกกันทั่วไปว่าเอเลี่ยน ("เซโนมอร์ฟ")และซีรีส์ภาคต่อที่ดำเนินเรื่องของหุ่นยนต์ แอนดรอยด์ เดวิด 8 (ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์) และมนุษย์ต่างดาวที่เรียกกันว่า "วิศวกร"
มนุษย์ต่างดาว
โลโก้แฟรนไชส์อย่างเป็น
ผลิตและจัดจำหน่ายโดย20th Century Studiosซีรีส์เริ่มต้นด้วยAlien(1979) กำกับโดยRidley Scottและตามมาด้วยภาคต่ออีกสามเรื่อง ได้แก่Aliens (1986) กำกับโดยJames Cameron , Alien 3 (1992)
กำกับโดยDavid FincherและAlien Resurrection (1997) กำกับโดยJean-Pierre Jeunetนอกจากนี้ Scott ยังได้กำกับภาพยนตร์ซีรีส์พรีเควลเรื่อง Prometheus (2012) และAlien: Covenant (2017) ตามมาด้วยAlien: Romulus (2024) ซึ่งมีฉากระหว่างสองภาพยนตร์แรก และกำกับโดยFede Álvarez
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น