Translate

27 กรกฎาคม 2568

ตามรอยเส้นทางสายไหม Following the Silk Road

ที่มา : ดาวโหลดน์ PDF. รองศาสตราจารย์บุญเดิม พันรอบ   
   เส้นทางสายไหมคือ เส้นทางการค้า เส้นทาง วัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี่ ของพ่อค้า นักบวช มิชชันนารี ทหาร พวกเร่ร่อนและผู้ที่อาศัยในเมืองในจีน อินเดีย เปอร์เซีย เมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างทวีป เอเชีย เอเชียตะวันออกกลางและยุโรป มีการใช้เส้นทางนี้เมื่อ ประมาณ 2,000 ปีมาแล้วใช้เพื่อการขนส่งสินค้าและ การค้า เส้นทางคาราวานนี้มีความยาวประมาณ 6,400 กิโลเมตร
รูปภาพ ; ผ่านทุ่งหญ้า สเตปป์ ตามเส้น
แผนที่แสดงทุ่งหญ้าสเตปป์
รูปภาพ ; ทุ่งหญ้าสเตปป์ และที่พักทางนี้ยังผ่านทะเลทรายโกบีและตาคลามากลัน
รูปภาพ ; แผนที่แสดงทะเลทรายโกบี
รูปภาพ ; แผนที่แสดงทะเลทรายทาคลามากลัน
 ทะเลทรายตาคลามากลัน ⬇️ ใกล้เมืองดุนหวง(Dunhuang) เศรษฐกิจ และความปลอดภัยทำให้ต้องจัดระบบการค้าตามแบบคาราวานเมื่อต้องเดิน ทางผ่านเมืองและโอเอซิสต่าง ๆ
แผนที่ราชวงศ์ฮั่น       ↔️        เมืองชางอานหรือเสียน
 แม้ว่าเส้นทางสายไหมจะมีความสำคัญเมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว คาดว่าเส้นทางนี้มีบทบาทสำคัญในราว 139 ก่อนคริสต์ศตวรรษ ในประเทศจีนตรงกับสมัยราชวงศ์ฮั่น โดย จุดเริ่มเส้นทางอยู่ที่เมืองชางอัน หรือ เสียน( Changan –Xian) ไปถึงเมืองคอนสแตนติโนเบิลหรืออีสตันบุล ผ่านเมืองพาณิชย์สำคัญ เช่น ซามาร์กัน( Samarkand) และคาสการ์ (Kashgar) พ่อค้าจะบรรทุกสินค้า เช่น ผ้าไหม ทอง หยก เพชร ชา ค้าทาสและเครื่องเทศ เนื่องจากการขนส่งมีข้อจำกัด มีระยะทางไกล และมักจะไม่ปลอดภัย สินค้าฟุ่มเฟือยเป็น สินค้าหลักที่นำมาค้าขาย เส้นทางสายไหม ยังเป็นเส้นทาง แพร่กระจายปรัชญาแนวความคิด ศาสนาพุทธในระยะเริ่มแรกต่อมาก็ คือศาสนา
รูปภาพ ; พระพุทธเหรียญทองสมัยอาณาจักร Kushan,Kanishka circa 100-140 A.D. พบที่อัฟกานิสถาน
แหล่งข้อมูล : http://chsweb.lr.k12.nj.us เข้าถึงเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2552 อิสลาม เป็นเส้นทางสื่อสัมพันธ์อารยธรรมยุโรป ตะวันออกกลางและเอเชีย
เส้นทางสายไหมทางทะเล เส้นทางสายไหมยุคแรกใช้เส้นทางทะเลเชื่อมระหว่าง เมดิเตอร์เรเนียนและอินเดีย ในสมัยอาณาจักรโรมัน ระหว่าง คริสต์ศตวรรษที่ 1 และ 6 มีเส้นทางเดินเรือระหว่างทะเล แดงและอินเดีย ใช้ลมมรสุมฤดูร้อนช่วยการเดินเรือ พ่อค้า
 บรรทุกสินค้าระหว่างเมืองเบเรนนิเกผ่านทะเลแดงและใช้อูฐ บรรทุกสินค้าทางบกไปยังแม่น้ำไนล์ จากจุดนี้ใช้เรือบรรทุกสินค้า เส้นแม่น้ำทางเรือไปยังอเล็กซานเดรีย แล้วจึงขนถ่ายสินค้าไปยังอาณาจักรโรมัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 พ่อค้า อาหรับเป็นผู้ควบคุมเส้นทางเดินเรือทางทะเล เนื่องการ ขนส่งทางเรือมีศักยภาพด้านการบรรทุกสินค้าจำนวน มากกว่าการขนส่งทางคาราวาน การขนส่งทางเรือเริ่มที่กวางตุ้ง (Canton -Guangzhou),ผ่านเอเชียอาคเนย์ มหาสมุทรอินเดีย ทะเลแดงไปยังอเล็กซานเดรีย การเดินทาง ไปยังหมู่เกาะเครื่องเทศ (the Spice Islands -Moluccas) ปัจจุบันคือ อินโดนีเซีย การแพร่กระจายของศาสนาอิสลาม ไปตามเส้นทางค้าเน้นแนวความคิดทางด้านจริยธรรมและ การค้าตามแนวความคิดของมุสลิม
 เส้นทางสายไหมเจริญสูงสุดในช่วงระหว่างอาณาจักรมองโกลคริสต์ศตวรรษที่ 13 เมื่อ มองโกลข่าน เข้าควบคุมจีน และ เอเชียกลางรวมทั้งเส้นทางค้าด้วย ประการสำคัญ คือเกิดความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนยุโรปและจีนหลังจากที่มี การเดินทางของมาโคโปโล(MarcoPolo1271-1292).
 ในช่วงยุคกลาง นครเวนิชและเจนัวควบคุมเส้นทางเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเชื่อมไปยัง ศูนย์กลางการค้าไปที่คอนสแตนติโนเปิล แอนนิโทช และอเล็กซานเดรีย เนื่องจากพลังอำนาจของยุโรปได้พัฒนาเทคโนโลยี่ทางทะเลตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ความสำเร็จดังกล่าวทำให้เข้าแทนที่อำนาจของอาหรับซึ่งได้ กำไรจากเส้นทางค้านี้มาก่อน เส้นทางเดินเรือสามารถขนส่งสินค้าได้รวดเร็วและมีต้นทุนน้อยทำให้เส้นทางสายไหมในคริสต์ศตวรรษที่ 16 หมดความสำคัญลง
เส้นทางสายไหมสายต่าง ๆ
1. เส้นทางสายเหนือ (The northern route) คือเส้นทางที่เป็นที่มาของคำว่าเส้นทางสายใหมเริ่มที่ชางอาน ปัจจุบันคือเสียน (Chang'an -Xi'an)เมืองหลวงของจีนโบราณ ความหมายถนนเส้นทางสายไหมเกิดขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 1 ในกลุ่มพวกเร่ร่อน เส้นทางสายไหมทางเหนือผ่านจังหวัดต่าง ๆ ของจีน เช่นจังหวัด กังสุ (Gansu )จากจังหวัดชานซี (Shaanxi )แล้วจึงแยกเป็น 3 เส้นทาง เส้นทาง 2 เส้นทาง เดินทางไปตามแนวภูเขาไปยังทางเหนือและทางใต้ของ ทะเลทรายทาคลามากันไปบรรจบที่กาสห์การ์ อีกเส้นทางหนึ่งไปทางเหนือของภูเขาเทียนชาน(TianShan) ผ่านเมือง เทอร์ฟาน ทาลการ์และดัลมาตี้ (Turfan, Talgar and Almaty) ปัจจุบัน คือคาซัคสถานตะวันออกเฉียงใต้ เส้นทางได้แบ่ง กาสห์การ์ตะวันตกด้วยเส้นทางที่แยกไปยังหุบเขาอไลตรงไป ยังเทอร์เมซและบาล์สห์( Termez and Balkh) ส่วนอีกเส้นทางหนึ่ง เดินทางผ่านโกแลดในหุบเขาเฟอร์กานา ไปยังทิศตะวันตกข้ามทะเลทรายคารากัม (KarakumDesert)ไป
รูปภาพ ; แผนที่แสดงทะเลทรายคาราคัม
 ยัง เมิบร์ไปบรรจบกับเส้นทางสายใต้ อีกเส้นทางหนึ่งตรงไป ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลอาราลและคาสเปียน ตรงไปยังทะเลดำ ยังมีอีกเส้นทางหนึ่งคือเส้นทางตรงไปยัง เสียน หรือซีอานผ่านไปยังแม่น้ำเหลือง ซินเจียง เฟอร์กาน ปัจจุบันคืออุชเบกิสถานตะวันออกเปอร์เซีย-อิหร่านและอิรัค ก่อนจะไปบรรจบกับพรมแดนตะวันตกของอาณาจักรโรมันเป็นเส้นทางของคาราวาน เส้นทางสายไหมทิศเหนือส่งผล อินทผลัมจากเปอร์เซียไปยังจีน สินค้าจากโซมาเลีย อินเดีย อียิปต์ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าราคาแพงและพิเศษจากหลายส่วนในโลกโดยนำไปแลกเปลี่ยนสินค้าผ้าไหมและเครื่องเคลือบจากจีน
2. เส้นทางสายใต้ (The southern route)คือ เส้นทางจาก จีนไปยังทิศเหนือของอินเดีย เติร์กเมนิสถาน-คอร์ราซาน เมโสโปเตเมีย ไปยัง อนาโตเลีย เส้นทางใต้ไปบรรจบที่เส้นทางสายไหมทางทะเล เส้นทางสายใต้ต้องผ่านลุ่มน้ำสิชวน( the Sichuan Basin) ในประเทศจีนเส้นทางผ่านภูเขาสูงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของ อินเดีย เป็นเส้นทางค้าชาโบราณ (Ancient tea route) รวมทั้งผ่านเส้นทางที่ราบลุ่มแม่น้ำ พรหมบุตรและแม่น้ำคงคาไปถึงชุมทางใหญ่ที่เมืองพาราณสีแล้วจึงผ่านไปยังปากีสถาน ข้ามเทือกเขาฮินดูกูษไปยัง
อัฟกานิสถาน ไปบรรจบกับเส้นทางสายเหนือใกล้เมิร์บ เส้นทางนี้ตรงไปยัง สายตะวันตกผ่านภูเขาทางเหนือของ อิหร่านและทางเหนือของทะเลทรายซีเรียไปยังเลวาน
แผนที่เมืองเฮราท                แผนที่เมืองสุสา
 (the Levant) บริเวณที่เป็นท่าเรือการค้าทางทะเลเมดิเตอร์เร เนียนเป็นเส้นทางไปยังอิตาลี เส้นทางบกไปยังทางเหนือผ่านอนาโตเลียหรือทางใต้ของแอฟริกาใต้เส้นทางอื่นเดินทางจากเมืองเฮราท ผ่านสุสาไปยัง CharaxSpasinu ซึ่งต้องอยู่ที่อ่าวเปอร์เซีย ข้ามไปยังเปตราไปยังอเล็กซานเดรียในอียิปต์ และเมืองท่าอื่นของเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก และ บรรทุกสินค้าไปยังโรม แผนท่ีเปตรา เมืองเปตราได้รับยกย่องใหเ้ป็นส่ิงมหัศจรรย์ของโลก
3. เส้นทางทะเล (Sea routes) เริ่มเมื่อประมาณ 1,400 ปี ในช่วงราชวงศ์ฮั่นตะวันออก บางครั้งเส้นทางทะเลอาจไม่ใช่ เป็นส่วนเส้นทางสายไหมตามปกติโดยเดินทางผ่านปากแม่น้ำแดงใกล้ฮานอยปัจจุบัน ผ่านช่องแคบมาลักกาไปยังเอเชียอาคเนย์ ศรีลังกาและอินเดีย จากนั้นก็ไปอ่าวเปอร์เซียนและทะเลแดงไปยังอาณาจักร อซัม (kingdom of Axum)และไปยังท่าเรือโรมันจากท่าเรือสินค้าทะเลแดงจะมีผ้าไหม ขนส่งไปยังแม่น้ำไนล์ไปยังอเล็กซานเดรีย บรรทุกทางเรือไปยังโรม ท่าเรือคอนสแตนติโนเบิลและท่าเรือเมดิเตอร์เรเนียน อื่น เส้นทางทะเลอื่นจะนำไปสู่ชายฝั่งทะเลตะวันออกที่ชาวกรีกและโรมัน เรียกว่า"Azania"ในคริสต์ศตวรรษที่ เส้นทาง สายไหมขยายไปยังทางใต้ของจีนปัจจุบันคือบรูไน ไท มาลักกา ซี ลอนหรือศรีลังกา อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อิหร่าน อีรัค ในยุโรปขยายไปยังอิสราเอล เลบานอนรวมกับเลวานต์ อียิปต์ และอิตาลีในประวัติศาสตร์คือเวนิช ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังท่าเรือยุโรปอื่น กองคาราวานแถบสเปนและเส้นทางอัลไพน์( Alpine routes) เส้นทางน้ำจะผ่านมหาสมุทร อินเดียเป็นสำคัญ
เส้นทางสายไหมในปัจจุบัน เส้นทางสายไหม ปัจจุบัน ได้สร้างทางรถไฟสายหลั่นโจว-ฮาหมี่-อุรุมฉี เส้นทางรถไฟ ช่วงสุดท้าย จากเมืองอัลมา ถึง อาต้า ในคาซาซสถานสร้าง เสร็จเมื่อปี 1992 ชื่อเส้นทางสายไหมเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นโดยนักภูมิศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ เฟอร์ดินานต์ ฟรายแฮร์ฟอน ริชโธเฟน(Ferdinand Freiherr von Richthonfen : ค.ศ. 1833-1905)ทุกวันนี้โบราณวัตถุโบราณสถานเขต ทัศนียภาพและวิถีชีวิตที่มีเอกลกัษณ์ของชน กลุ่มน้อย ตามเส้นทางสายไหม ยัง เป็นสิ่งจูงใจชาวโลกอยู่ เส้นทางสายไหม ได้เปลี่ยนบทบาททางเส้นทางการค้ามาเป็นเส้นทางท่องเที่ยว
รูปภาพ ; เฟอร์ดินานต์ ฟรายแฮร์ ฟอน ริชโธเฟน(Ferdinand Freiherr von Richthonfen : ค.ศ.1833-1905)

ไม่มีความคิดเห็น: