Translate

16 กันยายน 2567

ปาจิตตีย์กัณฑ์ ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๕ อเจลกวรรค สิกขาบทที่ ๙ เรื่องพระฉัพพัคคีย์ [ว่าด้วย อยู่ในกองทัพ] พระวินัยปิฎก เล่ม ๒ มหาวิภังค์ ทุติยภาค

[๕๖๗]โดยสมัยนั้นพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ อนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. 
        ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์มีกิจจำเป็นเดินผ่านกองทัพไปแล้วแรมคืนอยู่ในกองทัพเกิน ๓ ราตรี. ประชาชนพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้พักแรมอยู่ในกองทัพเล่า? มิใช่ลาภของพวกเรา แม้พวกที่มาอยู่ในกองทัพ เพราะเหตุแห่งอาชีพ เพราะเหตุแห่งบุตรภรรยาก็ได้ไม่ดีแล้ว. 
         ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนเหล่านั้น เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน พระฉัพพัคคีย์จึงได้พักแรมอยู่ในกองทัพเกิน ๓ ราตรีเล่า? แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค ... 
ทรงสอบถามพระผู้มีพระภาคทรงสอบถามพระฉัพพัคคีย์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า พวกเธอพักแรม อยู่ในกองทัพเกิน ๓ ราตรี จริงหรือ? 
         พระฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า. 
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
         พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉน พวกเธอจึงได้พักแรมอยู่ในกองทัพเกิน ๓ ราตรีเล่า? การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ... 
         ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:- 
บัญญัติ          ๙๘. ๙. อนึ่ง ปัจจัยบางอย่างเพื่อจะไปสู่เสนา มีแก่ภิกษุนั้น ภิกษุนั้นพึงอยู่ได้ในเสนาเพียง ๒-๓ คืน ถ้าอยู่ยิ่งกว่านั้น เป็นปาจิตตีย์. เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ. 
สิกขาบทวิภังค์
         [๕๖๘] คำว่า อนึ่ง ปัจจัยบางอย่างเพื่อจะไปสู่เสนา มีแก่ภิกษุนั้น คือ มีเหตุได้แก่มีกิจจำเป็น. 
         คำว่า ภิกษุนั้นพึงอยู่ได้ในเสนาเพียง ๒-๓ คืน คือ พึงอยู่ได้ ๒-๓ คืน. 
         คำว่า ถ้าอยู่ยิ่งกว่านั้น ความว่า เมื่ออาทิตย์อัสดงค์ในวันที่ ๔ แล้วภิกษุยังอยู่ในกองทัพ ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทภาชนีย์ 
ติกะปาจิตตีย์          [๕๖๙] เกิน ๓ คืน ภิกษุสำคัญว่าเกิน อยู่ในกองทัพ ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
         เกิน ๓ คืน ภิกษุยังแคลงอยู่ อยู่ในกองทัพ ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
         เกิน ๓ คืน ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ถึง อยู่ในกองทัพ ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
ทุกะทุกกฏ
    ยังไม่ถึง ๓ คืน ภิกษุสำคัญว่าเกิน ... ต้องอาบัติทุกกฏ. 
    ยังไม่ถึง ๓ คืน ภิกษุยังแคลงอยู่ ... ต้องอาบัติทุกกฏ.
ไม่ต้องอาบัติ
     ยังไม่ถึง ๓ คืน ภิกษุสำคัญว่ายังไม่ถึง ... ไม่ต้องอาบัติ 
อนาปัตติวาร
         [๕๗๐] ภิกษุอยู่ ๒-๓ คืน ๑ ภิกษุอยู่ไม่ถึง ๒-๓ คืน ๑ ภิกษุอยู่ ๒ คืนแล้วออกไปก่อนอรุณของคืนที่ ๓ ขึ้นมา กลับอยู่ใหม่ ๑ ภิกษุอาพาธพักแรมอยู่ ๑ ภิกษุอยู่ด้วยกิจธุระของภิกษุอาพาธ ๑ ภิกษุตกอยู่ในกองทัพที่ถูกข้าศึกล้อมไว้ ๑ ภิกษุมีเหตุบางอย่างขัดขวางไว้ ๑ มีอันตราย ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล. 
อเจลกวรรค สิกขาบทที่ ๙ จบ. 
อรรถกถา ปาจิตติยกัณฑ์ ปาจิตติย์ อเจลกวรรคที่ ๕
 สิกขาบทที่ ๙        อเจลกวรรค อุยยุตต 
              ในสิกขาบทที่ ๙ มีวินิจฉัยดังนี้ :- 
 [ว่าด้วยเหตุต้องอยู่ในกองทัพเกิน ๓ ราตรี] 
            คำว่า อตฺถงฺคเต สุริเย เสนาย วสติ มีความว่า ถ้าแม้นภิกษุสำเร็จอิริยาบถบางอิริยาบถ บนอากาศด้วยฤทธิ์ จะยืนหรือนั่ง หรือนอนก็ตามที เป็นปาจิตตีย์ทั้งนั้น. 
            คำว่า เสนา วา ปฏิเสนาย รุทฺธา โหติ มีความว่า กองทัพถูกทัพข้าศึกล้อมไว้ ทำให้ทางสัญจรขาดลง. 
            บทว่า ปลิพุทฺโธ คือ ถูกไพรีหรืออิสรชนขัดขวางไว้. 
         บทที่เหลือตื้นทั้งนั้น. 
         สิกขาบทนี้มีสมุฏฐานดุจเอฬกโลมสิกขาบท เป็นกิริยา โนสัญญาวิโมกข์ อจิตตกะ ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม มีจิต ๓ มีเวทนา ๓ ดังนี้แล.

ไม่มีความคิดเห็น: