Translate

19 กันยายน 2567

ปาจิตตีย์กัณฑ์ ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๗ สัปปาณกวรรค สิกขาบทที่ ๗ เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง [ว่าด้วย ชักชวนมาตุคามเดินทางสายเดียวกัน] พระวินัยปิฎก เล่ม ๒ มหาวิภังค์ ทุติยภาค

[๖๕๘]โดยสมัยนั้นพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ อนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. 
      ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่งกำลังเดินทางไปสู่พระนครสาวัตถี ในโกศลชนบท เดินทางไปทางประตูบ้านแห่งหนึ่ง. สตรีผู้หนึ่งทะเลาะกับสามีแล้วเดินออกจากบ้านไป พบภิกษุรูปนั้นแล้วได้ถามว่า 
      พระคุณเจ้าจักไปไหน เจ้าข้า? 
     ภิกษุนั้นตอบว่า ฉันจักไปสู่พระนครสาวัตถี จ้ะ. 
     สตรีนั้นขอร้องว่า ดิฉันจักไปกับพระคุณเจ้าด้วย. 
     ภิกษุนั้นกล่าวรับรองว่า ไปเถิด จ้ะ. 
     ขณะนั้น สามีของสตรีนั้นออกจากบ้านแล้ว ถามคนทั้งหลายว่า พวกท่านเห็นสตรีมีรูปร่างอย่างนี้บ้างไหม? 
     คนทั้งหลายตอบว่า สตรีมีรูปร่างเช่นว่านั้นเดินไปกับพระ. 
     ในทันที เขาได้ติดตามไปจับภิกษุนั้นทุบตีแล้วปล่อยไป ภิกษุนั้นนั่งพ้อตนเองอยู่ ณ โคนต้นไม้แห่งหนึ่ง. 
     จึงสตรีนั้นได้กล่าวกะบุรุษผู้สามีว่า นาย พระรูปนั้นมิได้พาดิฉันไป ดิฉันต่างหากไปกับท่าน พระรูปนั้นไม่ใช่เป็นตัวการ นายจงไปขอขมาโทษท่านเสีย. 
     บุรุษนั้นได้ขอขมาโทษภิกษุนั้น ในทันใดนั้นแล. 
     ครั้นภิกษุนั้นไปถึงพระนครสาวัตถีแล้ว ได้เล่าเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน ภิกษุจึงได้ชักชวนแล้วเดินทางไกลสายเดียวกันกับมาตุคามเล่า 
ทรงสอบถาม
     พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุรูปนั้นว่า ดูกรภิกษุ ข่าวว่า เธอชักชวนแล้วเดินทางไกลสายเดียวกับมาตุคาม จริงหรือ? 
     ภิกษุรูปนั้นทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า. 
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
    พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษ ไฉนเธอจึงได้ชักชวนแล้วเดินทางไกลสายเดียวกับมาตุคามเล่า การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว
           ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:- 
พระบัญญัติ     ๑๑๖. ๗. อนึ่ง ภิกษุใด ชักชวนแล้ว เดินทางไกลสายเดียวกันกับมาตุคามโดยที่สุดแม้สิ้นระยะบ้านหนึ่ง เป็นปาจิตตีย์. เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง จบ. 
สิกขาบทวิภังค์
    [๖๕๙] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด 
      บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ ชื่อว่า ภิกษุ ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้. 
     ที่ชื่อว่า มาตุคาม ได้แก่หญิงมนุษย์ มิใช่หญิงยักษ์ มิใช่หญิงเปรต มิใช่สัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย เป็นสตรีผู้รู้เดียงสา สามารถทราบซึ้งถึงถ้อยคำเป็นสุภาษิต ทุพภาษิต วาจาชั่วหยาบและสุภาพ. 
     บทว่า กับ คือร่วมกัน. 
     บทว่า ชักชวนแล้ว คือ ชักชวนว่า เราไปกันเถิดจ้ะ เราไปกันเถิดค่ะ เราไปกันเถิดพระคุณเจ้า เราไปกันเถิดน้องหญิง เราไปกันวันนี้ ไปกันพรุ่งนี้ หรือไปกันมะรืนนี้ ดังนี้ เป็นต้น ต้องอาบัติทุกกฏ. 
     บทว่า โดยที่สุดแม้สิ้นระยะบ้านหนึ่ง ความว่า ในตำบลบ้าน กำหนดชั่วไก่บินถึง ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ ระยะบ้าน. ในป่าหาบ้านมิได้ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ ระยะกึ่งโยชน์. 
บทภาชนีย์
ติกะปาจิตตีย์     [๖๖๐] มาตุคาม ภิกษุสำคัญว่ามาตุคาม ชักชวนกันแล้วเดินทางไกลสายเดียวกัน โดย ที่สุดแม้สิ้นระยะบ้านหนึ่ง ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
     มาตุคาม ภิกษุสงสัย ชักชวนแล้ว เดินทางไกลสายเดียวกัน โดยที่สุดแม้สิ้นระยะบ้านหนึ่ง ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
     มาตุคาม ภิกษุสำคัญว่าไม่ใช่มาตุคาม ชักชวนแล้ว เดินทางไกลสายเดียวกัน โดยที่สุด แม้สิ้นระยะบ้านหนึ่ง ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
จตุกกะทุกกฏ
     ภิกษุชักชวน มาตุคามมิได้ชักชวน ... ต้องอาบัติทุกกฏ. 
    ภิกษุชักชวนแล้วเดินทางไกลสายเดียวกันกับหญิงยักษ์ หญิงเปรต บัณเฑาะก์ หรือ สัตว์ดิรัจฉานตัวเมียมีกายคล้ายมนุษย์ โดยที่สุดแม้สิ้นระยะบ้านหนึ่ง ต้องอาบัติทุกกฏ. 
 ไม่ใช่มาตุคาม ภิกษุสำคัญว่ามาตุคาม ... ต้องอาบัติทุกกฏ. 
 ไม่ใช่มาตุคาม ภิกษุสงสัย ... ต้องอาบัติทุกกฏ. 
 ไม่ใช่มาตุคาม ภิกษุสำคัญว่าไม่ใช่มาตุคาม ... ไม่ต้องอาบัติ. 
อนาปัตติวาร
     [๖๖๑] ภิกษุไม่ได้ชักชวนกันไป ๑ มาตุคามชักชวน ภิกษุไม่ได้ชักชวน ๑ ภิกษุไปผิดวันผิดเวลา ๑ มีอันตราย ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล. 
สัปปาณกวรรค สิกขาบทที่ ๗ จบ. 
อรรถกถา ปาจิตติยกัณฑ์ ปาจิตติย์ สัปปาณก 
วรรคที่ ๗ สิกขาบทที่ ๗  สัปปาณกวรรค สังวิธาน 
      ในสิกขาบทที่ ๗ มีวินิจฉัยดังนี้ :- 
       สองบทว่า ปธูเปนฺโต นิสีทิ มีความว่า ภิกษุนั้นนั่งพ้อ หรือตำหนิตนเองอยู่. 
       ข้อว่า นายฺโย โส ภิกฺขุ มํ นิปฺปาเทสิ มีความว่า แน่ะนาย! ภิกษุนี้มิได้ให้ฉันออกไป คือมิได้พาฉันไป. 
       คำที่เหลือในสิกขาบทนี้พร้อมกับสมุฏฐานเป็นต้น บัณฑิตพึงทราบโดยนัยดังกล่าวแล้ว ในสิกขาบทว่าด้วยการชักชวนเดินทางร่วมกันกับนางภิกษุณีนั่นแล.

ไม่มีความคิดเห็น: