Translate

18 กันยายน 2567

ปาจิตตีย์กัณฑ์ ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๗ สัปปาณกวรรค สิกขาบทที่ ๒ เรื่องพระฉัพพัคคีย์ [ว่าด้วย บริโภคน้ำมีตัวสัตว์] พระวินัยปิฎก เล่ม ๒ มหาวิภังค์ ทุติยภาค

[๖๓๔]โดยสมัยนั้นพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี
     ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์รู้อยู่ บริโภคน้ำมีตัวสัตว์บรรดาภิกษุที่เป็นผู้มักน้อย ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน พระฉัพพัคคีย์รู้อยู่จึงได้บริโภคน้ำมีตัวสัตว์เล่า? แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค 
ทรงสอบถาม
     พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามพระฉัพพัคคีย์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า พวกเธอรู้อยู่ บริโภคน้ำมีตัวสัตว์ จริงหรือ? 
     พระฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า. 
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
     พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉน พวกเธอรู้อยู่ จึงได้บริโภคน้ำมีตัวสัตว์เล่า? การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว 
      ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:- 
พระบัญญัติ      ๑๑๑. ๒. อนึ่ง ภิกษุใด รู้อยู่ บริโภคน้ำมีตัวสัตว์ เป็นปาจิตตีย์. เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ. 
สิกขาบทวิภังค์
     [๖๓๖] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด 
      บทว่า ภิกษุ ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุ เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ชื่อว่า ภิกษุ ที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้. 
     ที่ชื่อว่า รู้อยู่ คือ รู้เอง หรือคนอื่นๆ บอกแก่เธอ. 
     บทว่า มีตัวสัตว์ ความว่า ภิกษุรู้อยู่ คือ รู้ว่า สัตว์ทั้งหลายจักตายเพราะการบริโภค ดังนี้ บริโภค, ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
บทภาชนีย์
     [๖๓๗] น้ำมีตัวสัตว์ ภิกษุสำคัญว่ามีตัวสัตว์ บริโภค ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
     น้ำมีตัวสัตว์ ภิกษุสงสัย บริโภค ต้องอาบัติทุกกฏ. 
    น้ำมีตัวสัตว์ ภิกษุสำคัญว่าไม่มีตัวสัตว์ บริโภค ไม่ต้องอาบัติ. 
     น้ำไม่มีตัวสัตว์ ภิกษุสำคัญว่ามีตัวสัตว์ ต้องอาบัติทุกกฏ. 
     น้ำไม่มีตัวสัตว์ ภิกษุสงสัย บริโภค ต้องอาบัติทุกกฏ. 
     น้ำไม่มีตัวสัตว์ ภิกษุสำคัญว่าไม่มีตัวสัตว์ ไม่ต้องอาบัติ.
อนาปัตติวาร
      [๖๓๘] ภิกษุไม่รู้ว่าน้ำมีตัวสัตว์ ๑ ภิกษุรู้ว่าน้ำไม่มีตัวสัตว์ คือรู้ว่าสัตว์จักไม่ตายเพราะการบริโภค ดังนี้ บริโภค ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล. สัปปาณกวรรค สิกขาบทที่ ๒ จบ. 
อรรถกถา ปาจิตติยกัณฑ์ ปาจิตติย์ สัปปาณกวรรคที่ ๗ 
สิกขาบทที่ ๒          ปาจิตตีย์ สัปปาณก
        ในสิกขาบทที่ ๒ มีวินิจฉัยดังนี้ :-
 [แก้อรรถว่าด้วยการบริโภคน้ำมีตัวสัตว์] 
        บทว่า สปฺปาณกํ ได้แก่ นํ้ามีตัวสัตว์ด้วยจำพวกสัตว์เล็กๆ ซึ่งจะตายเพราะการบริโภค. อธิบายว่า ก็ภิกษุรู้อยู่บริโภคนํ้าเช่นนั้น ต้องปาจิตตีย์ทุกๆ ประโยค.เมื่อภิกษุดื่มนํ้าแม้เต็มบาตร โดยประโยคเดียวไม่ขาดตอน ก็เป็นอาบัติตัวเดียว. 
        ภิกษุเอานํ้าเช่นนั้นแกว่งล้างบาตรมีอามิสก็ดี ทำบาตร ข้าวต้มร้อนให้เย็นในนํ้าเช่นนั้นก็ดี เอามือวัก หรือเอากระบวยตักนํ้านั้นอาบก็ดี เป็นปาจิตตีย์ ทุกๆ ประโยค. 
        แม้ภิกษุเข้าไปสู่สระพังนํ้าก็ดี สระโบกขรณีก็ดี ให้คลื่นเกิดขึ้นเพื่อต้องการให้นํ้าทะลักออกภายนอก (เป็นปาจิตตีย์). พวกภิกษุเมื่อชำระสระพังหรือสระโบกขรณี 
        พึงถ่ายเทนํ้าที่ตักจากสระพังหรือจากสระโบกขรณีนั้นลงในนํ้าเท่านั้น.เมื่อในที่ใกล้ไม่มีนํ้า พึงเทนํ้าที่เป็นกัปปิยะ ๘ หม้อหรือ ๑๐ หม้อลงในประเทศที่ขังนํ้าได้ (แอ่งนํ้า) แล้วพึงเทลงในนํ้าที่เป็นกัปปิยะซึ่งเทไว้นั้น. 
       อย่าพึงเทนํ้าลงบนหินอันร้อน ด้วยสำคัญว่า จักไหลกลับลงไปในนํ้า. แต่จะรดให้หินเย็นด้วยนํ้าที่เป็นกัปปิยะ ควรอยู่. 
        บทที่เหลือในสิกขาบทนี้ตื้นทั้งนั้น. 
        สิกขาบทนี้มีสมุฏฐาน ๓ เป็นกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต ๓ มีเวทนา ๓ แล. 
       แต่ในสิกขาบทนี้ บัณฑิตพึงทราบว่าเป็นปัณณัตติวัชชะ เพราะภิกษุแม้รู้ว่านํ้ามีตัวสัตว์ แล้วบริโภคด้วยสำคัญว่าเป็นนํ้า ดุจในการที่แม้รู้ว่าตั๊กแตนและสัตว์เล็กจะตกลงไปแล้ว ตามประทีปด้วยจิตบริสุทธิ์ ฉะนั้น ดังนี้แล.

ไม่มีความคิดเห็น: