Translate

20 พฤศจิกายน 2568

หน้าต่างที่ ๘ / ๑๒. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ ๕๕. ภัททิยวรรค ๑๐. จูฬสุคันธเถราปทาน ๕๕๐. อรรถกถาจูฬสุคันธเถราปทาน

           เนื้อความในพระไตรปิฎก
           เนื้อความในอรรถกา มีทั้งหมด ๑๒ หน้าต่าง.
อรรถกถาหน้าต่างที่ [๑] [๒] [๓] [๔] [๕] [๖] [๗] [๘] [๙] [๑๐] [๑๑] [๑๒]
                        ยสวรรคที่ ๕๖#-         
                        อปรอุตตรเถราปทาน ๗ (๕๕๗) 
                        ว่าด้วยบุพจริยาของพระอปรอุตตรเถระ #- วรรคนี้ในบาลีไทย ขาดหายไป แต่ของฉบับภาษาอื่นและอรรถกถา (มีอยู่) จึงนำมาเพิ่มให้ครบ พร้อมทั้งเพิ่มเลขข้อต่อจากข้อ ๑๔๐ ไปตามลำดับ. 

                     [๑๔๗ ] เมื่อพระพุทธเจ้า พระนามว่า 
               สิทธัตถะ ผู้เป็นนาถะของโลก ผู้นำโลก นิพพาน 
               แล้ว ข้าพเจ้าประชุมกันระหว่างพวกญาติของ 
               ข้าพเจ้าแล้วได้ทำการบูชาพระธาตุ. 
                     ในกัปที่ ๙๔ ข้าพเจ้าได้บูชาพระธาตุใด 
               ไว้ เพราะกรรมนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จักทุคติเลย นี้ 
               เป็นผลแห่งการบูชาพระธาตุ. 
                     ข้าพเจ้าเผากิเลสทั้งหลายสิ้นแล้ว ฯลฯ 
               ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่. 
                     ข้าพเจ้าได้มาดีแล้วแล ฯลฯ คำสอนของ 
               พระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว. 
                     ปฏิปทา ๔ ฯลฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า 
               ข้าพเจ้าได้กระทำเสร็จแล้ว. 
         ทราบว่า ท่านพระอุตตรเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบอปรอุตตรเถราปทาน
               ยศวรรคที่ ๕๖         
               ๕๕๗. อรรถกถาอปรอุตตรเถราปทาน
               พึงทราบเรื่องราวในอปทานที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :- 
               อปทานของท่านพระอุตตรเถระรูปอื่นอีกมีคำเริ่มต้นว่า นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ ดังนี้. 
               แม้พระเถระรูปนี้ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ. 
               ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ ท่านได้เกิดในเรือนอันมีสกุล เจริญวัยแล้วบรรลุนิติภาวะแล้ว ได้เป็นผู้เลื่อมใสในพระศาสนา ประกาศตนเป็นอุบาสก. 
               เมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้ว อุบาสกนั้นเรียกประชุมหมู่ญาติของตนรวบรวมเครื่องบูชาสักการะมากมายแล้ว ได้ทำการบูชาพระธาตุ. ด้วยบุญกรรมอันนั้น เขาจึงได้ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก. 
         ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้เกิดในตระกูลพราหมณ์เมืองสาเกตุ มีชื่อว่าอุตตระ เจริญวัยแล้ว ไปเมืองสาวัตถีด้วยการงานบางอย่าง มองเห็นยมกปาฏิหาริย์ที่พระศาสดาทรงกระทำแล้ว ณ โคนต้นคัณฑามพพฤกษ์แล้วเลื่อมใส มีศรัทธาเจริญยิ่งขึ้นด้วยเทศนากาฬการามสูตรอีก บรรพชาแล้วไปยังกรุงราชคฤห์กับพระศาสดา ได้อุปสมบทแล้วเที่ยวจาริกไปอย่างนั้นแล เริ่มเจริญวิปัสสนา ไม่นานนักแลก็ได้อภิญญา ๖. 
               ก็ท่านเป็นผู้ได้อภิญญา ๖ เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี จึงออกจากกรุงราชคฤห์ไปยังกรุงสาวัตถีเพื่ออุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ถูกพวกภิกษุถามว่า อาวุโส กิจแห่งการบวช ท่านทำให้ถึงที่สุดได้แล้วหรือ จึงได้พยากรณ์ความเป็นพระอรหันต์แล้ว. 
               ก็ท่านได้บรรลุพระอรหัตแล้ว เกิดความโสมนัสใจ เมื่อจะประกาศถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า นิพฺพุเต โลกนาถมฺหิ ดังนี้. 
               คำนั้นทั้งหมด มีเนื้อความง่ายทั้งนั้น เพราะข้าพเจ้าได้กล่าวความหมายไว้แล้วในหนหลังแล.
จบอรรถกถาอปรอุตตรเถราปทาน

ไม่มีความคิดเห็น: