Translate

19 ตุลาคม 2567

พระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก เล่ม ๓ ภิกขุนีวิภังค์ ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๘ กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ ๖ เรื่องภิกษุณีจัณฑกาลี

     [๔๒๐] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. 
    ครั้งนั้น ภิกษุณีจัณฑกาลีเข้าไปหาภิกษุณีสงฆ์ ขอสมมติการให้อุปสมบท ภิกษุณีสงฆ์พิจารณาดูภิกษุณีจัณฑกาลีในขณะนั้นแล้ว กล่าวว่า ดูกรแม่เจ้า เธอยังไม่สมควรให้กุลธิดาบวชก่อน แล้วมิได้ให้สมมติการให้อุปสมบท ภิกษุณีจัณฑกาลีรับคำว่า ดีแล้ว. 
    ครั้นสมัยต่อมา ภิกษุณีสงฆ์สมมติการให้อุปสมบทแก่ภิกษุณีเหล่าอื่น ภิกษุณีจัณฑกาลีจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา
ว่า ดิฉันคนเดียวเป็นคนเขลา 
ดิฉันคนเดียวเป็นคนไม่มีความละอายเพราะสงฆ์ให้สมมติการให้อุปสมบทแก่ภิกษุณีเหล่าอื่น ไม่ให้กะดิฉันคนเดียว. 
    บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนแม่เจ้าจัณฑกาลีอันภิกษุณีสงฆ์กล่าวอยู่ว่า 
    ดูกรแม่เจ้า เธอยังไม่สมควรให้กุลธิดาบวชก่อน ดังนี้ รับคำว่า ดีแล้ว ภายหลังจึงได้ถึงการบ่นว่าเล่า 
ทรงสอบถาม
    พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุณีทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า ภิกษุณีจัณฑกาลีอันสงฆ์กล่าวอยู่ว่า ดูกรแม่เจ้า เธอยังไม่สมควรให้กุลธิดาบวชก่อน ดังนี้ รับคำว่า ดีแล้ว ภายหลังได้ถึงการบ่นว่า จริงหรือ? 
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า. 
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
    พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุณีจัณฑกาลีอันภิกษุณีสงฆ์กล่าวอยู่ว่า ดูกรแม่เจ้า เธอยังไม่สมควรให้กุลธิดาบวชก่อน ดังนี้ 
    รับคำว่า ดีแล้ว ภายหลังจึงได้ถึงการบ่นว่าเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส 
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-    พระบัญญัติ
    ๑๓๑. ๖. อนึ่ง ภิกษุณีใด อันภิกษุณีสงฆ์กล่าวอยู่ว่า ดูกรแม่เจ้า เธอยังไม่สมควรให้กุลธิดาบวชก่อน ดังนี้ รับคำว่า ดีแล้ว ภายหลังถึงธรรมคือบ่นว่า เป็นปาจิตตีย์. เรื่องภิกษุณีจัณฑกาลี จบ. 
สิกขาบทวิภังค์
    [๔๒๑] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือ ผู้เช่นใด 
    บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ชื่อว่า ภิกษุณีที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้. 
    คำว่า ดูกรแม่เจ้า เธอยังไม่สมควรให้กุลธิดาบวชก่อน ความว่า ดูกรแม่เจ้า เธอยังไม่ควรก่อน ที่จะเป็นผู้ให้กุลธิดาอุปสมบท. 
    คำว่า รับคำว่า ดีแล้ว ความว่า ถึงธรรมคือบ่นว่าในภายหลัง ต้องอาบัติปาจิตตีย์. 
อนาปัตติวาร
    [๔๒๒] บ่นว่าภิกษุณีสงฆ์ผู้ทำ เพราะฉันทาคติ เพราะโทสาคติ เพราะโมหาคติ เพราะ ภยาคติ โดยปกติ ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ ไม่ต้องอาบัติแล. 
กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ ๖ จบ.

ไม่มีความคิดเห็น: