Translate

19 ตุลาคม 2567

พระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก เล่ม ๓ ภิกขุนีวิภังค์ ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๘ กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ ๑๒ เรื่องภิกษุณีหลายรูป

     [๔๓๘] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. 
   ครั้งนั้น ภิกษุณีทั้งหลาย บวชสิกขมานาทุกปี ที่สำนักอาศัยไม่เพียงพอ คนทั้งหลายจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้บวชสิกขมานาทุกปีเล่า ที่สำนักอาศัยจึงไม่เพียงพอกัน.
   ภิกษุณีทั้งหลายได้ยินคนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่ บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงได้บวชสิกขมานาทุกปีเล่า
ทรงสอบถาม
   พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่าพวกภิกษุณีบวชสิกขมานาทุกปี จริงหรือ?
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
   พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฉนพวกภิกษุณีจึงได้บวชสิกขมานาทุกปีเล่า การกระทำของพวกนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส.
   ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-พระบัญญัติ   ๑๓๗. ๑๒. อนึ่ง ภิกษุณีใด ยังสิกขมานาให้บวชทุกๆ ฝน เป็นปาจิตตีย์.
เรื่องภิกษุณีหลายรูป จบ.
สิกขาบทวิภังค์
   [๔๓๙] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่า ผู้ใด คือผู้เช่นใด
   บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ...  นี้ชื่อว่า ภิกษุณีที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้.
บทว่า ทุกๆ ฝน คือ ทุกๆ ปี.
บทว่า ให้บวช คือ ให้อุปสมบท.
   ตั้งใจว่า จักให้อุปสมบท แล้วแสวงหาคณะก็ดี อาจารย์ก็ดี บาตรก็ดี จีวรก็ดี สมมติสีมาก็ดี ต้องอาบัติทุกกฏ 
   จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ จบกรรมวาจา ๒ ครั้งต้องอาบัติทุกกฏ ๒ ตัว จบกรรมวาจาครั้งสุด ภิกษุณีผู้อุปัชฌาย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ คณะและอาจารย์ ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร   [๔๔๐] ให้อุปสมบท เว้นระยะหนึ่งปี ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ ๑๒ จบ.
อรรถกา ภิกขุนีวิภังค์ ปาจิตติยกัณฑ์กุมารีภูตวรรคสิกขาบทที่ ๑๒
วินิจฉัยในสิกขาบทที่ ๑๒ พึงทราบดังนี้ :- 
   สองบทว่า อุปสฺสโย น สมฺมติ ได้แก่ สำนักที่อยู่ไม่เพียงพอกัน. 
คำที่เหลือตื้นทั้งนั้น. 
   สมุฏฐานเป็นต้นก็เป็นเช่นเดียวกับสิกขาบทถัดไปนั้นแล.

ไม่มีความคิดเห็น: