Translate

23 ตุลาคม 2567

อรรถกถา พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก มหาวรรค ภาค ๑ อรรถกถายสวัตถุ เรื่องยสกุลบุตร

อรรถกามหาวรรคภาค ๑มหาขันธกะ
เรื่องยสกุลบุตร อรรถกถายสวัตถุ
   บทว่า ปุพฺพานุปุพฺพกานํ มีความว่า เก่าแก่เป็นลำดับด้วยอำนาจความสืบสายกัน. 
   ข้อว่า เตน โข ปน สมเยนเอกสฏฺฐี โลเก อรหนฺโต โหนฺติ มีความว่า ภายในพรรษาเท่านั้น มีมนุษย์เป็นพระอรหันต์ ๖๑ องค์ คือพวกก่อน ๖ องค์และพวกนี้อีก ๕๕ องค์. 
   บรรดามนุษย์เหล่านั้น ยสกุลบุตรเป็นต้นมีบุพประโยคดังต่อไปนี้ :-    ดังได้ยินมา ในอดีตกาล สหาย ๕๕ คนจะทำบุญร่วมพวกกัน จึงเที่ยวช่วยกันจัดการศพคนอนาถา.
   วันหนึ่ง พวกเขาพบหญิงมีครรภ์ทำกาลกิริยา คิดว่าจักเผา จึงนำไปยังป่าช้า. ในพวกเขา เว้นไว้ที่ป่าช้า ๕ คน สั่งว่าจงช่วยกันเผา ส่วนที่เหลือพากันเข้าบ้าน. พ่อยสผู้ทรามวัย แทงและพลิกศพนั้นให้ไหม้อยู่ ก็ได้อสุภสัญญา. 
   เขาได้แสดงแก่อีก ๔ คนด้วยว่า ผู้เจริญจงเห็นของไม่สะอาด น่าเกลียดนี่. อีก ๔ คนนั้นก็ได้อสุภสัญญาในศพนั้นบ้าง. เขาทั้ง ๕ พากันไปบ้านแล้วบอกแก่สหายที่เหลือ. 
   ฝ่ายพ่อยสผู้ทรามวัยไปบ้านแล้วได้บอกแก่มารดาบิดาและภรรยา. ชนเหล่านั้นทั้งหมดได้เจริญอสุภสัญญาบ้าง. 
   บุพประโยคของชนเหล่านี้เท่านี้. เพราะเหตุนั้นความสำคัญในเหล่าชนฟ้อนว่า เป็นดังป่าช้านั่นแล จึงได้เกิดขึ้นแก่พระยศผู้มีอายุ. และด้วยอุปนิสัยสมบัตินั้น ความบรรลุธรรมพิเศษได้เกิดแก่ทุกคนแล.
   ข้อว่า อถโข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ มีความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จอยู่ที่กรุงพาราณสีจนถึงเพ็ญเดือนกัตติกาหลัง วันหนึ่งตรัสเรียกภิกษุ ๖๐ รูป ซึ่งเป็นพระขีณาสพเหล่านั้น. 
บ่วง คือความโลภในอารมณ์ทั้งหลายที่เป็นทิพย์ จัดเป็นของทิพย์.  บ่วง คือความโลภในอารมณ์ทั้งหลายซึ่งเป็นของมนุษย์ จัดเป็นของมนุษย์. 
   หลายบทว่า มา เอเกน เทฺว มีความว่า ท่านทั้งหลายอย่าได้ไปรวมกัน ๒ รูปโดยทางเดียวกัน. 
บทว่า อสฺสวนตา มีความว่า เพราะเหตุที่ไม่ได้ฟัง. 
บทว่า ปริยายนฺติ มีความว่า เมื่อไม่ได้บรรลุธรรมพิเศษที่ยังไม่ได้บรรลุ ชื่อว่าย่อมเสื่อมจากความบรรลุธรรมพิเศษ. 
บทว่า อนฺตก ได้แก่ ดูก่อนมารผู้เลวทราม คือเป็นสัตว์ต่ำช้า.
   พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายเอาบ่วง คือราคะ ตรัสว่า เที่ยวไปในอากาศ. จริงอยู่ พระองค์ทรงทราบบ่วง คือ ราคะนั้น จึงตรัสว่า เที่ยวไปในอากาศ.
อรรถกถายสวัตถุ จบ.

ไม่มีความคิดเห็น: