Translate

13 ตุลาคม 2567

พระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก เล่ม ๓ ภิกขุนีวิภังค์ ปาจิตติยกัณฑ์ ปาจิตตีย์ นัคควรรค สิกขาบทที่ ๗ เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา

[๒๔๒] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันอารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น มีอกาลจีวรบังเกิดแก่ภิกษุณีสงฆ์แล้ว จึงภิกษุณีสงฆ์ประชุมใคร่จะแจกกัน แต่เวลานั้นพวกภิกษุณีอันตวาสินีของภิกษุณีถุลลนันทาพากันหลีกไปภิกษุกณีถุลลนันทาได้กล่าวคำนี้กะภิกษุณีทั้งหลายห้ามการแจกจีวรว่า แม่เจ้า ภิกษุณีทั้งหลายหลีกไปแล้ว จักแจกจีวรกันยังไม่ได้ก่อนดังนี้.  ภิกษุณีทั้งหลายกล่าวกันว่า ยังไม่แจกจีวรก่อน แล้วพากันกลับไป เมื่อหมู่ภิกษุณีอันเตวาสินีกลับมาแล้ว ภิกษุณีถุลลนันทาจึงสั่งให้แจกจีวรนั้น.  บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงได้ห้ามการแจกจีวรอันเป็นไปโดยชอบธรรมเล่า

ทรงสอบถาม

     พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่าภิกษุณีถุลลนันทาห้ามการแจกจีวร อันเป็นไปโดยชอบธรรม จริงหรือ? 
     ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท

    พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุณีถุลลนันทาจึงได้ห้ามการแจกจีวร อันเป็นไปโดยชอบธรรมเล่า การกระทำของนางนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลายจงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-

พระบัญญัติ

    ๘๒. ๗. อนึ่ง ภิกษุณีใด ห้ามการแจกจีวรอันเป็นไปโดยชอบธรรม เป็นปาจิตตีย์ ฯ เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา จบ. 

สิกขาบทวิภังค์

               [๒๔๓] บทว่า อนึ่ง ... ใด ความว่าผู้ใด คือ ผู้เช่นใด
               บทว่า ภิกษุณี ความว่า ที่ชื่อว่า ภิกษุณี เพราะอรรถว่าเป็นผู้ขอ ... นี้ชื่อว่า ภิกษุณีที่ทรงประสงค์ในอรรถนี้ 
               การแจกจีวร ที่ชื่อว่า เป็นไปโดยชอบธรรม คือ ภิกษุณีสงฆ์ ผู้พร้อมเพรียงประชุมกันแจก 
               บทว่า ห้าม คือห้ามว่า การแจกจีวรนี้ด้วยวิธีไร ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯ 

บทภาชนีย์

 [๒๔๔]    การแจกเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่าเป็นธรรม ห้าม ต้องอาบัติปาจิตตีย์ 
               การแจกเป็นธรรม ภิกษุณีสงสัย ห้าม ต้องอาบัติทุกกฏ 
               การแจกเป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่าไม่เป็นธรรม ห้าม ไม่ต้องอาบัติ 
               การแจกไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่าเป็นธรรม ต้องอาบัติทุกกฏ 
               การแจกไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ 
               การแจกไม่เป็นธรรม ภิกษุณีสำคัญว่าไม่เป็นธรรม ไม่ต้องอาบัติ ฯ 

อนาปัตติวาร

    [๒๔๕] แสดงอานิสงส์แล้วห้าม ๑ วิกลจริต ๑ อาทิกัมมิกา ๑ ไม่ต้องอาบัติแล ฯ นัคควรรค สิกขาบทที่ ๗ จบ 

อรรถกา ภิกขุนีวิภังค์ ปาจิตติยกัณฑ์นัคควรรค

สิกขาบทที่ ๗

วินิจฉัยในสิกขาบทที่ ๗ พึงทราบดังนี้ :- 
                บทว่า วิปฺปกฺกมึสุ มีความว่า ภิกษุณีทั้งหลายกล่าวกันว่า พวกภิกษุณียังรอการมาของภิกษุณี แม้เหล่าอื่นได้ ก็จักรอพวกเรามาบ้างเป็นแน่ จึงได้พากันไปในที่จำเป็นต้องไปนั้น. 
                บทว่า ปฏิพาเหยฺย แปลว่า พึงห้ามไว้. 
 .              บทว่า อานิสํสํ มีความว่า แสดงอานิสงส์ห้ามอย่างนี้ว่า ผ้าผืนเดียวไม่เพียงพอสำหรับภิกษุณีรูปเดียว พวกท่านจงรอไปก่อน ต่อไปอีกหน่อย ผ้าจักเกิดขึ้น ต่อนั้นเราจักแบ่งกัน ดังนี้ ไม่เป็นอาบัติ.
คำที่เหลือตื้นทั้งนั้น. 
                สิกขาบทนี้มีสมุฏฐาน ๓ เป็นกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ ปัณณัตติวัชชะ กายกรรม วจีกรรม มีจิต ๓ มีเวทนา ๓ แล.

ไม่มีความคิดเห็น: